รัฐบาลเวียดนามแถลงในวันนี้ว่า พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ยอมรับการลาออกจากตำแหน่งของนายหวอ วัน เถือง ประธานาธิบดีเวียดนาม หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งเพียง 1 ปี
นักวิเคราะห์ระบุว่า ภาวะวุ่นวายทางการเมืองของเวียดนาม อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะต่อการลาออกจากตำแหน่งของประธานาธิบดี 2 คนล่าสุด ซึ่งต่างก็เข้ารับตำแหน่งได้เพียง 1 ปี
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นโฮจิมินห์ดิ่งลงเกือบ 3% ในช่วงแรกของการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังมีข่าวลือเกี่ยวกับการลาออกของนายเถือง
นายฟลอเรียน เฟเยราเบนด์ เจ้าหน้าที่ประจำเวียดนามของมูลนิธิ Konrad Adenauer Foundation ซึ่งเป็นสำนักวิจัยของเยอรมนี กล่าวว่า เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นได้ทำให้เกิดความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความสามารถในการคาดการณ์ และความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีความสำคัญต่อการตัดสินใจด้านธุรกิจ
ทั้งนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลระบุว่า นายเถืองได้ละเมิดกฎระเบียบของพรรค ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้กระทบต่อความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อพรรค และกระทบต่อชื่อเสียงของพรรค ของรัฐ และต่อตัวของนายเถืองเอง
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการละเมิดกฎระเบียบของนายเถือง แต่ที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้นำประเทศของเวียดนามมักมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรณรงค์ต่อต้านการคอร์รัปชั่น ซึ่งอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกำจัดคู่แข่งทางการเมือง
ทั้งนี้ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ได้อนุมัติการลาออกของนายเถือง หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งเพียง 1 ปี
การลาออกของนายเถืองมีขึ้น ก่อนที่รัฐสภาเวียดนามมีกำหนดจัดการประชุมสมัยวิสามัญในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) โดยคาดว่าที่ประชุมจะมีมติเห็นชอบการตัดสินใจของพรรคคอมมิวนิสต์ในการอนุมัติการลาออกของนายเถือง
นายเถืองวัย 53 ปี ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเวียดนามในเดือนมี.ค.2566 และถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับนายเหงียน ฟู้ จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเวียดนาม
แม้ว่าตำแหน่งประธานาธิบดีเวียดนามมีบทบาทเพียงแค่ด้านพิธีการเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในสี่ตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญที่สุดของประเทศ