หมายเรียกเหล่านี้อาจไม่มีรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดล้วนเป็นข้อความเดียวกันที่กำชับให้ผู้ที่ได้รับจดหมายมารายงานตัวรับราชการทหาร พร้อมกับคำเตือนที่ระบุว่า "หากไม่มารายงานตัวจะถูกดำเนินคดี"
นายจอ วัย 31 ปี ซึ่งได้รับหมายเรียกในช่วงกลางเดือนมี.ค. และถูกเรียกตัวไปยังที่ว่าการอำเภอท้องถิ่นกล่าวกับเว็บไซต์ข่าวแชนแนลนิวส์เอเชียว่า "ทันทีที่ผมทราบว่าผมอยู่ในรายชื่อ ผมรู้ได้ทันทีว่าต้องย้ายถิ่นฐาน หากผมเข้ากรม ผมจบเห่แน่" และกล่าวเสริมว่า "ทุกคนรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากถูกเกณฑ์ทหาร เราจึงมีแค่ 2 ทางเลือก ไม่เสียสละตัวเองก็หนี ส่วนผมขอเลือกไปเป็นขอทานในต่างแดนดีกว่า" เว็บไซต์ข่าวแชนแนลนิวส์เอเชียรายงานว่า นายจอได้พิจารณาที่จะขอยื่นอุทธรณ์เพื่อให้ได้รับการยกเว้น อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า "ผมได้สอบถามเกี่ยวกับกระบวนการขออุทธรณ์กับผู้อำนวยการเขตแล้ว รวมถึงความเป็นไปได้ที่ผมจะได้รับการยกเว้นการเกณฑ์ทหารหากยังคงต้องดูแลบุพการี แต่ผู้อำนวยการเขตระบุว่า แม้จะยื่นอุทธรณ์แล้วแต่กระบวนการดังกล่าวต้องใช้เวลาหลายเดือน และผมจะถูกเรียกตัวเข้ากรมระหว่างนั้น"
อนึ่ง ตั้งแต่เดือนต.ค. เป็นต้นมา กองทัพเมียนมาประสบกับการสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในการต่อสู้กับการรุกคืบของกลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของชนกลุ่มน้อยกลุ่มชาติพันธุ์ 3 กลุ่มซึ่งเป็นพันธมิตรกับนักสู้ที่สนับสนุนประชาธิปไตย