แหล่งข่าวทางการทูตเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (24 มี.ค.) ว่า กองทัพสหรัฐวางแผนเพิ่มบทบาทหน้าที่ของกองบัญชาการทหารสหรัฐในญี่ปุ่น เพื่อให้การร่วมมือกับกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น (SDF) เป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายในการรับมือกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากจีนและเกาหลีเหนือ
แหล่งข่าวคาดการณ์ว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงด้านการทบทวนปฏิบัติการควบคุมและบังคับบัญชา เมื่อนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จัดการประชุมสุดยอด ณ กรุงวอชิงตันในเดือนเม.ย.นี้ โดยคาดว่าจะมีการออกแถลงการณ์ร่วมกันด้วย
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐมีแนวโน้มที่จะพูดคุยรายละเอียดในประเด็นดังกล่าวก่อนการหารือแบบ "สองบวกสอง" ซึ่งเป็นการหารือระหว่างรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศ ซึ่งจะมีขึ้นภายในสิ้นปีนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียที่กำลังไร้เสถียรภาพ อันเนื่องมาจากท่าทีของจีนต่อไต้หวัน รวมถึงการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่องของเกาหลีเหนือ ซึ่งส่งผลให้ญี่ปุ่นและสหรัฐกระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นและสหรัฐจะร่วมมือกันดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเสริมขีดความสามารถในการตอบโต้อีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ในปี 2565 ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจพัฒนาศักยภาพในการโจมตีฐานทัพของศัตรู แม้ญี่ปุ่นจะมีรัฐธรรมนูญที่ห้ามประเทศทำสงครามก็ตาม
ญี่ปุ่นมีแผนจะจัดตั้งกองบัญชาการร่วมเพื่อบังคับบัญชากองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ภายในสิ้นเดือนมี.ค. 2568 โดยรัฐบาลนายกฯ คิชิดะมุ่งหวังที่จะให้กองบัญชาการนี้ร่วมมือกับกองทัพสหรัฐอย่างใกล้ชิด
ปัจจุบัน กองบัญชาการภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐ ซึ่งรับผิดชอบในเขตญี่ปุ่นนั้น ตั้งอยู่ในฮาวาย ซึ่งความต่างของไทม์โซนและระยะทางทำให้การสื่อสารระหว่างกองทัพญี่ปุ่นกับสหรัฐไม่ราบรื่นเท่าที่ควร
นักวิเคราะห์บางส่วนแสดงความกังวลว่า หากกองทัพสหรัฐในญี่ปุ่นเสริมบทบาทหน้าที่ควบคู่ไปกับกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะแยกเขตอำนาจและอำนาจหน้าที่ของกองทัพสหรัฐในญี่ปุ่นออกจากกองบัญชาการอินโด-แปซิฟิก
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายเคิร์ต แคมป์เบลล์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในกรุงโตเกียวว่า สหรัฐยินดีที่ญี่ปุ่นจะยกระดับความสามารถด้านการป้องกันประเทศ และอาจจะมีประกาศความร่วมมือเพิ่มเติมในการประชุมสุดยอดเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ นายคิชิดะมีกำหนดการพบกับปธน.ไบเดน ที่กรุงวอชิงตัน ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ โดยเป็นการเยือนสหรัฐครั้งแรกของผู้นำญี่ปุ่นในฐานะแขกของรัฐ นับตั้งแต่สมัยอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เมื่อปี 2558