สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนกับชาติตะวันตกส่อเค้าทวีความรุนแรงขึ้นอีก หลังจากเมื่อวันจันทร์ (25 มี.ค.) สหรัฐและอังกฤษได้ออกมากล่าวหาว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีทางไซเบอร์ที่เล็งเป้าโจมตีบุคคลในแวดวงการเมือง
ขณะเดียวกันรัฐบาลอังกฤษได้กล่าวหาว่า แฮกเกอร์ของรัฐบาลจีนนั้นอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีไซเบอร์ที่เข้าถึงข้อมูลของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งหลายล้านราย
"วันนี้ผมยืนยันได้เลยว่าคนของรัฐบาลจีนเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีทางไซเบอร์ที่มุ่งร้ายถึง 2 ครั้งซึ่งเล็งเป้าไปยังสถาบันประชาธิปไตยและคนในรัฐสภาของเรา" นายโอลิเวอร์ ดาวเดน รองนายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวต่อรัฐสภาอังกฤษเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายดาวเดนอ้างว่าคนของรัฐบาลจีนได้ทำการล้วงข้อมูลคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานการเลือกตั้งของอังกฤษ โดยคาดการณ์กันว่าการล้วงข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างปี 2564-65
คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจพบการโจมตีทางไซเบอร์ในเดือนต.ค. 2565 แต่เพิ่งมีการเปิดเผยต่อสาธารณชนเมื่อปีที่แล้ว โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งระบุในปี 2566 ว่า แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงชื่อและที่อยู่ของทุกคนในอังกฤษที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งระหว่างปี 2557-2565
อย่างไรก็ตาม โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำอังกฤษระบุว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าจีนอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ในอังกฤษนั้นเป็นแต่งเรื่องขึ้นเพื่อใส่ร้ายป้ายสี
ขณะเดียวกัน กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เปิดเผยคำฟ้องร้องเมื่อวานนี้ โดยกล่าวหาว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับจีนอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ที่เล็งเป้าไปยังกลุ่มธุรกิจ เจ้าหน้าที่รัฐบาล และนักการเมืองของสหรัฐ
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ตั้งข้อหาคนสัญชาติจีน 7 ราย ได้แก่ หนี เกาปิน, เวิง หมิง, เผิง เยาเหวิน, ซุน เสี่ยวหุย, ซยง หวัง และจ้าว กวงจง จากการสมคบคิดกันเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์แบบผิดกฎหมายและร่วมมือกันเพื่อฉ้อโกงทางออนไลน์อันเกี่ยวพันกับกลุ่มแฮกเกอร์ในจีนที่ใช้เวลา 14 ปีในการเล็งเป้าสหรัฐและนักวิจารณ์ต่างชาติ, กลุ่มธุรกิจ และเจ้าหน้าที่การเมือง
ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่า กลุ่มคนเหล่านี้ดำเนินการในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่มแฮกเกอร์ชื่อ "APT31"