บุตรชายคนโตทั้งสองคนของนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยว่า คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตมาเลเซีย (MACC) มีคำสั่งให้พวกเขาช่วยเหลือในการตรวจสอบบิดาของตนเอง นับเป็นการเปิดเผยครั้งแรกว่า การสอบสวนที่กินเวลายาวนานหลายเดือนนี้ มุ่งเป้าไปที่อดีตนายกรัฐมนตรีรายนี้
นายโมคซานี มหาธีร์ วัย 63 ปี กล่าวในการให้สัมภาษณ์ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันที่ 23 มี.ค.ว่า "พ่อของผมเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ ... เราได้เป็นพยานแก่ทุกสิ่งที่ทางหน่วยงานกำลังตรวจสอบ"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในเดือนม.ค. MACC ได้สั่งการให้นายโมคซานี และนายมีร์ซาน วัย 65 ปี ผู้เป็นพี่ชาย แสดงบัญชีทรัพย์สินย้อนหลังถึงปี 2524 ซึ่งเป็นปีที่นายมหาธีร์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยคำสั่งดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบบันทึกการทำธุรกิจต่างประเทศ ซึ่ง ณ เวลานั้น MACC ไม่ได้เปิดเผยว่า เป้าหมายในการตรวจสอบคืออดีตนายกรัฐมนตรีมหาธีร์
ทั้งสองพี่น้องระบุในการให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขากำลังให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ แต่ภาระที่ได้รับมอบหมายนั้นค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลาพอสมควร ทำให้ทั้งคู่ได้รับการขยายเวลาในการปฏิบัติตามข้อกำหนดออกไป 2 ครั้งจากกำหนดการเดิมในเดือนก.พ.
นายโมคซานีระบุว่า MACC ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับการตรวจสอบนายมหาธีร์แก่พวกเขา โดยกล่าวว่า "เราได้สอบถามแล้วว่า หน่วยงานตรวจสอบพ่อของพวกเราด้วยเรื่องอะไร และพวกเขาไม่สามารถให้ข้อมูลเหล่านั้นแก่เราได้ ... มีใครนึกภาพออกไหมว่า คุณกำลังถูกขอข้อมูลเพื่อใช้ดำเนินคดีกับผู้ปกครองของตัวเอง"
ทั้งนี้ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนปัจจุบัน ได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำประเทศในปี 2565 หลังชวดตำแหน่งนี้มานานหลายสิบปี โดยนายอันวาร์เป็นอดีตผู้สนับสนุนของนายมหาธีร์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากเขา ก่อนที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะขาดสะบั้น เพราะนายมหาธีร์ไล่อันวาร์ออกจากทุกตำแหน่งในรัฐบาลในปี 2541 และถูกจำคุกในข้อหาทุจริตและข้อหามีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชาย อย่างไรก็ตาม นายอันวาร์ปฏิเสธข้อหาดังกล่าว ความเป็นไปดังกล่าวสร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ และทำให้นายอันวาร์กลายเป็นฝ่ายค้านที่ผลักดันการปฏิรูปประชาธิปไตย