สำนักข่าว IRNA ของรัฐบาลอิหร่านรายงานว่า นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส ได้เดินทางเยือนกรุงเตหะรานในวันนี้ (26 มี.ค.) เพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของอิหร่าน เพียงหนึ่งวันหลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในสงครามฮามาส-อิสราเอล
รายงานระบุว่า นายฮานิเยห์จะพบกับนายฮุซัยน์ อะมีร อับดุลลอฮิยอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นการเยือนกรุงเตหะรานครั้งที่สองของนายฮานิเยห์ นับตั้งแต่ที่กลุ่มฮามาสซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน บุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,160 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
การเยือนครั้งก่อนหน้านี้คือช่วงต้นเดือนพ.ย. 2566 โดยนายฮานิเยห์ได้พบกับนายอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน รวมถึงเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ
ทั้งนี้ อิหร่านกล่าวว่าเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. "ประสบความสำเร็จ" แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง
กระทรวงสาธารณสุขกาซาเปิดเผยว่า นับตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. มีประชาชนในฉนวนกาซาเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลรวมกว่า 32,000 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง
การเยือนครั้งนี้ของนายฮานิเยห์มีขึ้นหลังจากที่ UNSC ได้รับรองมติเมื่อวันจันทร์ (25 มี.ค.) เพื่อเรียกร้องให้ "หยุดยิงทันที" ในช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม เพื่อนำไปสู่การ "หยุดยิงถาวร"
มติดังกล่าวยังเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อื่น ๆ ปล่อยตัวประกันที่จับไปในระหว่างเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ด้วย
กลุ่มติดอาวุธจับตัวประกันไว้ราว 250 คน ซึ่งอิสราเอลเชื่อว่ามีประมาณ 130 คนยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซา ในจำนวนมี 33 คนที่สันนิษฐานว่าเสียชีวิตแล้ว
นายนัสเซอร์ คานานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวถึงมติ UNSC เมื่อวันจันทร์ว่าเป็น "ก้าวที่ดี แต่ยังไม่เพียงพอ" โดยเขาเรียกร้องให้มี "มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อปฏิบัติตามมติและยุติการโจมตีโดยสมบูรณ์และถาวร"