สหรัฐและเกาหลีใต้ได้ประกาศตั้งกองกำลังใหม่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นเกาหลีเหนือจากการจัดซื้อน้ำมันผิดกฎหมาย เนื่องจากการดำเนินงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เผชิญกับอุปสรรค ทำให้เกิดความกังขาเกี่ยวกับอนาคตของการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การประชุมครั้งแรกของกองกำลังส่งเสริมการสกัดกั้นเฉพาะกิจ (Enhanced Disruption Task Force หรือ EDTF) จัดขึ้น ณ กรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.)
กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า การประชุมดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกว่า 30 รายจากกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบด้านการทูต ข่าวกรอง การคว่ำบาตร และการสกัดกั้นทางทะเล โดยทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะจัดหาน้ำมันสำเร็จรูปให้แก่เกาหลีเหนือ และหารือเกี่ยวกับแนวทางต่าง ๆ ในการสกัดกั้นความร่วมมือที่น่าสงสัยระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย
แถลงการณ์ระบุว่า "น้ำมันเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ และท่าทีทางการทหารของเกาหลีเหนือ"
ทั้งนี้ ข้อจำกัดของ UNSC ที่กำหนดไว้เกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ จำกัดให้เกาหลีเหนือนำเข้าน้ำมันดิบได้ 4 ล้านบาร์เรลและน้ำมันสำเร็จรูปได้ 500,000 บาร์เรลต่อปี
นักการทูตคนหนึ่งของ UN เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า มีความเป็นไปได้สูงที่รัสเซียจะวีโต้มติของ UN ที่เรียกร้องให้ยังคงมอบอำนาจให้กับคณะผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
ผู้เชี่ยวชาญของ UN ที่ติดตามการดำเนินการคว่ำบาตรกล่าวในเดือนนี้ว่า เรือบรรทุกน้ำมันที่ติดธงเกาหลีเหนืออาจส่งมอบผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปไปแล้วมากกว่า 1.5 ล้านบาร์เรลระหว่างวันที่ 1 ม.ค. ถึง 15 ก.ย.ปีที่แล้ว