ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ, อดีตปธน.บารัค โอบามา และอดีตปธน.บิล คลินตัน ได้เข้าร่วมงานระดมทุนใหญ่ในนิวยอร์ก เมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) เพื่อเป็นทุนสำหรับแคมเปญการเลือกตั้งของปธน.ไบเดน โดยทั้งสามจากพรรคเดโมแครตได้ออกมาพูดปกป้องทำเนียบขาวในเรื่องการจัดการวิกฤตในฉนวนกาซา อย่างไรก็ดี มีกลุ่มผู้ประท้วงเข้ามาขัดจังหวะในงาน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.ไบเดนโดยสารเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันไปนิวยอร์กพร้อมกับอดีตปธน.โอบามา เพื่อเข้าร่วมงานระดมทุนที่เรดิโอ ซิตี้ มิวสิค ฮอลล์ ในนิวยอร์ก ในงานนี้ ไบเดนได้ร่วมพูดคุยกับอดีตปธน.คลินตัน โดยมีนายสตีเฟน โคลแบร์ พิธีกร "The Late Show" เป็นผู้ดำเนินรายการ
ทางผู้จัดงานระบุว่า งานนี้ระดมทุนได้มากกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของไบเดน
อย่างไรก็ดี ในระหว่างงาน มีผู้ประท้วงหลายคนลุกขึ้นมาตะโกนขัดจังหวะการพูดคุยบนเวที เพื่อแสดงความไม่พอใจที่ปธน.ไบเดนสนับสนุนอิสราเอลในสงครามกับฮามาสที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในกาซามากกว่า 30,000 คน
"ละอายใจบ้างมั้ย โจ ไบเดน" ผู้ประท้วงรายหนึ่งตะโกน
ด้านอดีตปธน.โอบามาและอดีตปธน.คลินตันได้ให้มุมมองของประธานาธิบดีเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในกาซา โดยเน้นย้ำถึงความเป็นจริงทางการเมืองในการทำงานในทำเนียบขาว
พวกเขากล่าวว่า ประธานาธิบดีจำเป็นต้องสามารถสนับสนุนอิสราเอลไปพร้อม ๆ กับการผลักดันให้ชาวปาเลสไตน์เข้าถึงอาหาร เวชภัณฑ์ และมีรัฐในอนาคตได้มากขึ้น
"มันเป็นตำแหน่งที่โดดเดี่ยว ? ความจริงอย่างหนึ่งของการเป็นประธานาธิบดีคือ โลกนี้มีทั้งความสุขความสวยงามมากมาย แต่ก็มีโศกนาฏกรรมและความโหดร้ายมากด้วยเช่นกัน" อดีตปธน.โอบามากล่าว
"เข้าใจได้ว่า ประชาชนมักอยากให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ? แต่ประธานาธิบดีไม่ได้มีอภิสิทธิ์แบบนั้น"
เมื่อมีผู้ประท้วงในงานขัดจังหวะ อดีตปธน.โอบามาสวนกลับว่า "คุณพูดอย่างเดียวโดยไม่ฟังไม่ได้นะ อีกฝ่ายนึงเขาก็ทำแบบนี้แหละ"
นอกจากนี้ อดีตปธน.ทั้งสองยังออกมาปกป้องการบริหารจัดการเศรษฐกิจของปธน.ไบเดน ซึ่งเป็นจุดที่ได้คะแนนนิยมต่ำในผลการสำรวจระดับชาติ
อดีตปธน.คลินตันกล่าวว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจในยุคของไบเดนนั้นดีกว่ายุคของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นอย่างมาก
"ผมเชื่อในเรื่องการเก็บสถิติผลงาน" อดีตปธน.คลินตันกล่าว "เขาทำประโยชน์ให้กับอเมริกา" และสมควรได้เป็นปธน.อีกสมัย
อนึ่ง ก่อนงานระดมทุนจะเริ่มขึ้น ขบวนรถของผู้นำทั้งสามได้แล่นผ่านกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่กำลังชุมนุมต่อต้านการทำสงครามของอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา โดยผู้ประท้วงเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งรุ่นใหม่และเป็นกลุ่มหัวก้าวหน้าที่เคยเลือกไบเดนในปี 2563 แต่ตอนนี้รู้สึกโกรธแค้นที่ปธน.ไบเดนเข้าข้างอิสราเอลในการโจมตีตอบโต้กลุ่มฮามาส หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เมื่อปีที่แล้ว