ในขณะที่มีการเร่งกำจัดเศษเหล็กน้ำหนักหลายพันตันที่เกิดจากสะพานถล่มในท่าเรือบัลติมอร์เมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) นายเวส มัวร์ ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ ได้เรียกร้องให้พรรครีพับลิกันร่วมมือกับพรรคเดโมแครตในการอนุมัติเงินทุนของรัฐบาลกลางเพื่อสร้างสะพานใหม่และฟื้นฟูเศรษฐกิจของท่าเรือ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) ในบัลติมอร์ ได้พังถล่มลงในช่วงกลางดึกของวันอังคารที่แล้ว (26 มี.ค.) คร่าชีวิตคนงานก่อสร้างไป 6 ราย เหตุเกิดเนื่องจากเรือคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่เท่า ๆ หอไอเฟล เกิดระบบขัดข้องและพุ่งชนเสาตอม่อสะพาน ส่งผลให้สะพานถล่มลงสู่แม่น้ำปาแทปสโก (Patapsco) และปิดกั้นเส้นทางขนส่งของท่าเรือบัลติมอร์
รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือฉุกเฉินเบื้องต้นจำนวน 60 ล้านดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี (28 มี.ค.) เพื่อเร่งรัดการเก็บกู้ซากสะพานและเปิดท่าเรือ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐสำหรับการนำเข้า-ส่งออกยานพาหนะและเครื่องจักรกลการเกษตร-ก่อสร้างประเภท "roll-on, roll-off" (รถที่สามารถขับเข้า-ออกจากเรือขนส่งได้โดยตรง ไม่ต้องใช้เครนยก) ทั้งนี้ ท่าเรือถูกปิดมาตั้งแต่วันอังคารที่เกิดเหตุ ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานของคนราว 15,000 คนที่ต้องพึ่งพากิจการของท่าเรือในแต่ละวัน
ด้านสำนักข่าวโรลคอล (Roll Call) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐได้แจ้งต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐแมริแลนด์ว่า ค่าใช้จ่ายสุดท้ายในการสร้างสะพานใหม่นั้นอาจพุ่งสูงถึงอย่างน้อย 2 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนจากพรรคเดโมแครตได้ให้คำมั่นว่ารัฐบาลกลางจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการสร้างสะพานใหม่ แต่การดำเนินการนั้นจะขึ้นอยู่กับการอนุมัติร่างกฎหมายจัดสรรเงินทุนจากทั้งสภาผู้แทนราษฎรที่เสียงส่วนใหญ่นำโดยพรรครีพับลิกัน และวุฒิสภาที่เสียงส่วนใหญ่นำโดยพรรคเดโมแครต สภาคองเกรสที่แตกแยกเป็นสองขั้วนี้ได้เผชิญกับความขัดแย้งด้านการจัดสรรงบประมาณมาครั้งแล้วครั้งเล่า โดยพรรครีพับลิกันสายแข็งมักขัดแย้งแม้แต่กับคนในพรรคเดียวกัน
นายมัวร์ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต กล่าวว่าพรรครีพับลิกันควรเต็มใจอนุมัติเงินทุน ไม่ใช่เพื่อเห็นแก่เมืองบัลติมอร์เท่านั้น แต่เพื่อประโยชน์ของเศรษฐกิจของชาติด้วย
"เหตุผลที่เราต้องการให้ทั้งสองพรรคร่วมมือกัน...ไม่ใช่เพราะเราต้องการให้คุณช่วยรัฐแมริแลนด์ แต่เราจำเป็นต้องเร่งเปิดให้เศรษฐกิจอเมริกากลับมาดำเนินต่อได้อีกครั้ง เนื่องจากท่าเรือบัลติมอร์มีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของชาติเรา" นายมัวร์กล่าวเปิดเผยต่อสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) เมื่อวานนี้
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ นายพีท บูติเจจ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นว่าสภาคองเกรสจะอนุมัติเงินทุนที่จำเป็นสำหรับการเก็บกู้ซากและสร้างสะพานใหม่ โดยตั้งข้อสังเกตว่า สภาคองเกรสที่แตกแยกแห่งนี้เคยร่วมกันอนุมัติงบโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดนมาแล้วเมื่อปี 2564
"หากมีอะไรในประเทศนี้ที่ยังคงได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคมากกว่าเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ก็เห็นจะเป็นการรับมือเหตุฉุกเฉิน ซึ่งกรณีนี้ครอบคลุมทั้งสองส่วน และผมหวังว่าสภาคองเกรสจะให้ความร่วมมือเมื่อเราหันไปพึ่งพาพวกเขา" นายบูติเจจกล่าวในรายการ "Face the Nation" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส (CBS)
อนึ่ง ปธน.ไบเดนมีกำหนดเยือนจุดที่สะพานถล่มในสัปดาห์นี้
เมื่อวันเสาร์ (30 มี.ค.) เครนขนาดใหญ่ได้เริ่มตัดชิ้นส่วนของสะพานที่พังถล่มเพื่อเตรียมการขนย้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการกู้ซากที่ยาวนานและซับซ้อน ด้านโฆษกสำนักงานผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์กล่าวในวันอาทิตย์ว่า เศษสะพานขนาด 200 ตันได้ถูกนำออกไปแล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังวางกลยุทธ์เพื่อดึงเรือคอนเทนเนอร์ออกจากซากสะพาน
นายมัวร์กล่าวว่า ซากปรักหักพังในน้ำรวมถึงสภาพอากาศที่อันตรายในช่วงหลายวันที่ผ่านมาทำให้ไม่สามารถส่งนักประดาน้ำลงไปค้นหาศพคนงานก่อสร้างที่เหลืออีก 4 ราย
อย่างไรก็ตาม นายมัวร์และเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ปฏิเสธที่จะให้กรอบเวลาโดยประมาณสำหรับการเปิดท่าเรือและการสร้างสะพานขึ้นใหม่