สำนักงานสื่อประจำรัฐบาลกาซาซึ่งบริหารโดยกลุ่มฮามาส เปิดเผยเมื่อคืนวานนี้ (1 เม.ย.) ว่า อิสราเอลได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในกาซา ส่งผลให้บุคลากรจากองค์กรเวิลด์ เซ็นทรัล คิตเชน (World Central Kitchen หรือ WCK) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรจากสหรัฐ เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 5 ราย ในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย
รายงานระบุว่า ชาวต่างชาติที่เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลนั้น มีทั้งพลเมืองโปแลนด์ ออสเตรเลีย และอังกฤษ ทั้งยังมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 1 ราย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า องค์กร WCK ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้านอาหารแก่ผู้ที่เดือดร้อน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2553 โดยขณะนั้นได้ส่งพ่อครัวแม่ครัวและอาหารไปยังประเทศเฮติหลังเกิดแผ่นดินไหว และนับตั้งแต่นั้นก็ได้ช่วยส่งอาหารให้กับชุมชนต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ผู้ลี้ภัยที่ชายแดนสหรัฐ บุคลากรทางการแพทย์ในช่วงโควิด-19 รวมถึงผู้ที่เดือดร้อนจากสงครามในยูเครนและฉนวนกาซา
WCK ระบุบนเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ว่า "เรารับทราบว่ามีบุคลากรจากองค์กรเวิลด์ เซ็นทรัล คิตเชน เสียชีวิตจากการโจมตีของกองทัพอิสราเอลขณะที่พวกเขากำลังปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้านอาหารในกาซา" และเพิ่มเติมว่า "นี่เป็นโศกนาฏกรรม เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและพลเรือนไม่ควรตกเป็นเป้าหมายเลย"
เชฟโฮเซ อันเดรส ผู้ก่อตั้ง WCK ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวและมิตรสหายของผู้เสียชิวิต พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลหยุดคร่าชีวิตผู้คนอย่างไม่เลือกหน้า โดยระบุบนเอ็กซ์ว่า "หยุดพฤติกรรมกีดกันความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม หยุดฆ่าพลเรือนและผู้ให้ความช่วยเหลือ และหยุดใช้อาหารเป็นอาวุธ ไม่ควรมีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตอีกต่อไป"
ด้านกองทัพอิสราเอลได้แสดงความคิดเห็นต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าวว่า ทางกองทัพกำลังดำเนินการทบทวนอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์อันน่าเศร้าเช่นนี้ และยืนยันว่าทางกองทัพทุ่มเทสุดความสามารถเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสได้ออกมาเปิดเผยว่า การโจมตีดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อ "ข่มขวัญ" หน่วยงานด้านมนุษยธรรม เพื่อบั่นทอนกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่