ข้อมูลผลสำรวจฉบับใหม่จากสถาบันเอเชียอาคเนย์ศึกษา ยูซุฟ อิสฮัค (ISEAS-Yusof Ishak Institute) ในสิงคโปร์ ระบุว่า ประชาชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) สนับสนุนจีนมากกว่าสหรัฐ โดยได้แรงหนุนจากหลายปัจจัย เช่น ความผิดหวังต่อนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐ และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่อาเซียนได้รับจากโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากผลสำรวจสถานะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำปี 2567 ระบุว่า 50.5% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกจีน และ 49.5% เลือกสหรัฐ หากอาเซียนต้องเลือกข้าง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จีนเบียดขึ้นมาแซงหน้าสหรัฐนับตั้งแต่เริ่มมีการถามคำถามดังกล่าวในการทำผลสำรวจรายปีเมื่อปี 2563
ขณะที่ในปีที่ผ่านมา 38.9% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกจีน ส่วน 61.1% เลือกสหรัฐ
ผลการสำรวจระบุว่า การเปลี่ยนมุมมองต่อจีนเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษในมาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ไทย, บรูไน และลาว เนื่องจากประเทศเหล่านี้ได้รับประโยชน์จากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน โดยผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มประเทศดังกล่าวเลือกจีนเพิ่มขึ้นถึง 20%
ขณะเดียวกันผู้สนับสนุนสหรัฐก็ลดน้อยลงในเวียดนาม, สิงคโปร์, เมียนมา และกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม ฟิลิปปินส์เชื่อมั่นในสหรัฐเพิ่มขึ้น โดยหลัก ๆ แล้วมีสาเหตุมาจากความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นในทะเลจีนใต้
นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 46% ระบุว่า สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซานับเป็นข้อกังวลใหญ่สำหรับรัฐบาลต่าง ๆ โดยกลุ่มประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมยกให้ประเด็นนี้เป็นข้อกังวลอันดับหนึ่งในด้านภูมิรัฐศาสตร์
สำนักข่าวเซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์รายงานว่า ผลการสำรวจที่จัดทำขึ้นเป็นครั้งที่ 6 นี้นำโดยกลุ่มนักวิจัยจากสถาบันเอเชียอาคเนย์ศึกษา ยูซุฟ อิสฮัค และทำการสำรวจประชาชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบ 2,000 รายระหว่างเดือนม.ค.-ก.พ.ในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ภูมิภาคดังกล่าวกำลังเผชิญ