กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยในวันนี้ (3 เม.ย.) ว่า จำนวนผู้สมัครเป็นทหารเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังเกิดเหตุกราดยิงในงานคอนเสิร์ตใกล้กรุงมอสโกเมื่อเดือนที่แล้ว
กระทรวงกลาโหมแถลงว่า มีผู้ลงนามในสัญญาเป็นทหารมากกว่า 100,000 คนนับตั้งแต่ต้นปี โดยในจำนวนนี้มีประมาณ 16,000 คนที่เซ็นสัญญาในช่วง 10 วันที่ผ่านมา
"จากการสัมภาษณ์ผู้สมัคร ณ จุดคัดเลือกตามเมืองต่าง ๆ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าแรงจูงใจหลักคือความต้องการล้างแค้นให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2567" ทางกระทรวงฯ ชี้แจง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหตุกราดยิงและวางเพลิงในงานคอนเสิร์ต ณ โครคัส ซิตี ฮอลล์ ในย่านชานกรุงมอสโก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 144 คน โดยกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ออกมาอ้างความรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียกล่าวว่าผู้ก่อเหตุมีความเชื่อมโยงกับยูเครน แต่ทางยูเครนปฏิเสธมาตลอด ขณะที่สหรัฐก็ออกมาโต้ว่าข้อกล่าวหาของรัสเซียนั้นไร้เหตุผล
ขณะนี้ รัสเซียพึ่งพาการรับสมัครทหารใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อใช้ในการทำสงครามกับยูเครน ซึ่งดำเนินมาถึงปีที่ 3 แล้ว
เมื่อเดือนก.ย. 2565 ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน มีคำสั่งระดมกำลังพลสำรอง 300,000 นาย แต่หลังจากนั้นได้กล่าวว่าไม่จำเป็นต้องระดมกำลังพลสำรองเพิ่มเติมแล้ว เนื่องจากมีผู้สมัครใจเข้าร่วมกองทัพเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ตามเมืองต่าง ๆ ในรัสเซียมีโปสเตอร์เชิดชูทหารที่เข้าร่วมรบในยูเครนว่าเป็นผู้รักชาติและวีรบุรุษ โดยปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดผู้สมัครทหารจำนวนมากคือเงินเดือนที่สูงกว่างานพลเรือนทั่วไป
รัสเซียซึ่งบุกยูเครนในเดือนก.พ. 2565 ได้รุกคืบอย่างช้า ๆ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ยูเครนปฏิบัติการตอบโต้เมื่อปีที่แล้วแต่ไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อเดือนที่แล้ว นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ประกาศว่า รัสเซียจะเสริมความแข็งแกร่งทางทหารด้วยการจัดตั้งกองทัพใหม่ 2 กองทัพ และเพิ่มหน่วยรบอีก 30 หน่วยภายในสิ้นปีนี้