เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมขององค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ระงับการให้ความช่วยเหลือในฉนวนกาซาช่วงกลางคืนเป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ 7 รายจากเวิลด์ เซ็นทรัล คิตเชน (World Central Kitchen) เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล
นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN กล่าวเมื่อวันพุธ (3 เม.ย.) ว่า "เราระงับการปฏิบัติงานในฉนวนกาซาช่วงกลางคืนเป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพื่อประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยซึ่งส่งผลกระทบต่อบุคลากรภาคพื้นดินของเรา"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การระงับการปฏิบัติงาน 48 ชั่วโมงเริ่มต้นเมื่อวันอังคาร (2 เม.ย.) หลังเกิดเหตุสังหารเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ของเวิลด์ เซ็นทรัล คิตเชน เมื่อวันจันทร์ (1 เม.ย.)
"เราระงับการปฏิบัติงานในช่วงกลางคืนเท่านั้น แต่ในช่วงกลางวัน เจ้าหน้าที่จากโครงการอาหารโลกจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป รวมถึงพยายามส่งขบวนรถช่วยเหลือไปยังตอนเหนือของฉนวนกาซา" นายดูจาร์ริกกล่าว "ในขณะที่ความอดอยากกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมและสิ่งของจำเป็นต้องสามารถเคลื่อนย้ายไปทั่วฉนวนกาซาได้อย่างอิสระและปลอดภัย"
เขากล่าวเสริมว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังคงรอให้ทางการอิสราเอลอนุญาตให้เข้าไปในโรงพยาบาลอัลชิฟา (Al-Shifa) ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา นอกจากนี้ ทีมงานของ WHO ยังวางแผนที่จะไปยังโรงพยาบาลอีก 2 แห่งทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ได้แก่ โรงพยาบาลอัลซาฮาบา (Al-Sahaba) และโรงพยาบาลอัลอาห์ลี (Al-Ahli) แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตจากอิสราเอล
"เราทำได้เพียงแค่เน้นย้ำอีกครั้งว่า ความล่าช้าและการปฏิเสธภารกิจด้านมนุษยธรรมไม่เพียงขัดขวางเราไม่ให้เข้าถึงผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานและการส่งมอบความช่วยเหลืออื่น ๆ อีกด้วย" นายดูจาร์ริกกล่าว "เราและพันธมิตรด้านมนุษยธรรมจะพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยชีวิตพลเรือนทั่วฉนวนกาซา"