นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวในระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่งในวันนี้ (9 เม.ย.) หลังการหารือกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน โดยระบุว่า รัสเซียและจีนจะยังคงร่วมมือกันต่อสู้กับการก่อการร้ายต่อไป
สำนักข่าวรัสเซียหลายแห่งรายงานถ้อยแถลงของนายลาฟรอฟว่า "ผมขอขอบคุณจีนที่แสดงความเห็นใจหลังเกิดเหตุก่อการร้ายในแคว้นมอสโกเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ปีนี้ และขอขอบคุณที่สนับสนุนรัสเซียในการต่อสู้กับการก่อการร้าย"
"ความร่วมมือของเราในการต่อต้านการก่อการร้ายจะดำเนินต่อไป ซึ่งรวมถึงภายใต้กรอบพหุภาคี" นายลาฟรอฟกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหตุกราดยิงงานคอนเสิร์ตใกล้กรุงมอสโกมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 144 ราย โดยกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (IS) ออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่รัสเซียเชื่อว่ายูเครนอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว แม้ว่ารัสเซียจะไม่ได้แสดงหลักฐานใด ๆ ก็ตาม
นอกจากนี้ นายลาฟรอฟยังขอบคุณจีนที่ส่งคณะผู้สังเกตการณ์มาดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียเมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ชนะแบบแลนด์สไลด์ด้วยคะแนนเสียงมากที่สุดในยุคหลังสหภาพโซเวียต
"ขอขอบคุณผู้นำของเราที่ทำให้ความเป็นหุ้นส่วนรอบด้านและปฏิสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างรัสเซียกับจีนแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นถึงระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และชัยชนะอีกครั้งของท่านวลาดิเมียร์ ปูติน จะช่วยรับประกันการเสริมความแข็งแกร่งให้กับความเป็นหุ้นส่วนรอบด้านต่อไป" นายลาฟรอฟกล่าว
ก่อนหน้านี้ รัสเซียระบุว่านายลาฟรอฟและนายหวัง อี้ จะหารือกันใน "ประเด็นร้อน" ต่าง ๆ เช่น ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และสงครามในยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า ปธน.ปูตินจะเดินทางเยือนจีนในเดือนพ.ค.นี้ เพื่อพบปะหารือกับปธน.สี จิ้นผิง ซึ่งจะเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของผู้นำรัสเซียหลังชนะการเลือกตั้งครั้งล่าสุด
ทั้งนี้ รัสเซียและจีนได้ประกาศความเป็นหุ้นส่วนแบบ "ไร้ขีดจำกัด" ในเดือนก.พ. 2565 เมื่อครั้งที่ปธน.ปูตินเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง เพียงไม่กี่วันก่อนที่รัสเซียจะเปิดฉากบุกยูเครนเต็มรูปแบบ และทั้งสองประเทศก็ได้กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา