จีนให้คำมั่นในวันนี้ (10 เม.ย.) ว่าจะไม่ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์หรือแรงกดดันใด ๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจีนกับรัสเซีย แม้สหรัฐจะออกมาเตือนว่าจีนต้องรับผิดชอบหากรัสเซียทำการรุกคืบในยูเครนก็ตาม
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันอังคาร (9 เม.ย.) นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเพื่อหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน โดยทั้งสองประเทศตกลงที่จะเสริมสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์
ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ CCTV แห่งรัฐบาลจีน ปธน.สีกล่าวกับนายลาฟรอฟว่า จีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความสัมพันธ์กับรัสเซีย และพร้อมที่จะเสริมสร้างการสื่อสารทวิภาคีและการประสานงานเชิงยุทธศาสตร์พหุภาคีกับรัสเซีย
รายงานยังระบุด้วยว่า ปธน.สีและปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ตกลงที่จะรักษาการหารือแลกเปลี่ยนกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศจะพัฒนาไปอย่างมั่นคง
ต่อมาในวันเดียวกันนั้น นายเคิร์ต แคมป์เบลล์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์ตอบโต้การประชุมที่เกิดขึ้นว่า สหรัฐ "จะไม่นิ่งเฉยและแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี"
"เราได้แจ้งจีนตามตรงแล้วว่า หากสถานการณ์นี้ยังดำเนินต่อไป จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน" นายแคมป์เบลล์ย้ำในระหว่างงานซึ่งจัดโดยคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน
"เราจะมองว่านี่ไม่ใช่แค่กิจกรรมเดี่ยว ๆ ของรัสเซีย แต่เป็นกิจกรรมร่วมกันที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนและเกาหลีเหนือ เรื่องนี้ขัดแย้งกับผลประโยชน์ของสหรัฐ" นายแคมป์เบลล์เตือน
ต่อมาในวันนี้ นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงตอบโต้สหรัฐว่า "จีนกับรัสเซียมีสิทธิที่จะมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าตามปกติ"
"ความร่วมมือแบบนี้ไม่ควรถูกแทรกแซงหรือจำกัด และจีนจะไม่ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์หรือแรงกดดันใด ๆ ในเรื่องนี้" นางเหมากล่าวเสริม
นางเหมากล่าวว่า จีนมีบทบาทสร้างสรรค์ในการแสวงหาทางออกให้กับสงครามในยูเครนเสมอมา "หากประเทศใดก็ตามที่ห่วงใยสันติภาพในยูเครนอย่างแท้จริง และหวังว่าวิกฤตจะยุติลงโดยเร็ว ประเทศนั้นก็ควรไตร่ตรองถึงสาเหตุที่แท้จริงของวิกฤตนี้เสียก่อน"
ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนกับรัสเซียได้เพิ่มการติดต่อกันมากขึ้น และความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศก็มีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นนับตั้งแต่ที่รัสเซียบุกยูเครน
ด้านนักวิเคราะห์มองว่าจีนถือไพ่เหนือกว่าในความสัมพันธ์กับรัสเซีย และอิทธิพลของจีนกำลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากรัสเซียถูกโดดเดี่ยวในระดับสากลมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากสงครามที่ยืดเยื้อ