นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐได้ออกมาเตือนเมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) ว่า สหรัฐมีแผนจะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อการที่อิหร่านโจมตีอิสราเอล ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้งการคว่ำบาตรดังกล่าวอาจมีเป้าหมายเพื่อจำกัดขีดความสามารถของอิหร่านในการส่งออกน้ำมัน
นางเยลเลนกล่าวในการแถลงข่าวนอกรอบการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก (World Bank) ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่กรุงวอชิงตันว่า "ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคว่ำบาตร ดิฉันคาดหวังอย่างเต็มที่ว่า เราจะดำเนินการคว่ำบาตรต่ออิหร่านเพิ่มเติมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า"
นางเยลเลนระบุว่า ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐได้เคยดำเนินการเพื่อควบคุมการกระทำของอิหร่านที่เป็นการบั่นทอนเสถียรภาพด้วยการลดขีดความสามารถของอิหร่านในการส่งออกน้ำมัน
นอกจากนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า "เห็นได้ชัดว่าอิหร่านยังคงสามารถขายน้ำมันได้อยู่ ดังนั้น อาจจะมีสิ่งที่เราสามารถดำเนินการได้มากกว่านี้อยู่ ดิฉันจะไม่ระบุว่าเราจะใช้มาตรการคว่ำบาตรอะไร แต่จะเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว เนื่องจากเป็นสิ่งที่เราสามารถจัดการได้"
นางเยลเลนระบุว่า การกระทำของอิหร่านที่โจมตีอิสราเอลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และการจัดหาเงินทุนให้กับกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซา, เลบานอน, เยเมน และอิรักนั้น ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อเสถียรภาพในตะวันออกกลาง และอาจนำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 เม.ย.) อิหร่านเปิดฉากโจมตีอิสราเอลโดยใช้โดรนและขีปนาวุธมากกว่า 300 ลูก ซึ่งถือเป็นการโจมตีโดยตรงต่ออิสราเอลเป็นครั้งแรก เพื่อตอบโต้การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่อสถานทูตของอิหร่านในกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงเสียชีวิต