นางลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า การค้าอาวุธระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ และทางสหรัฐจะพยายามหาวิธีตรวจสอบการละเมิดดังกล่าว หลังจากที่รัสเซียใช้อำนาจวีโต้คัดค้านมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่าด้วยการขยายวาระการปฏิบัติหน้าที่ของคณะผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าจับตาโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
นางโธมัส-กรีนฟิลด์ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างการเยือนในกรุงโซลในวันนี้ (17 เม.ย.) ว่า สหรัฐจะร่วมมือกับพันธมิตร เช่น เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เพื่อสำรวจวิธีแก้ปัญหาทั้งภายในและภายนอก UN เพื่อรักษาการทำงานของคณะผู้เชี่ยวชาญของคณะมนตรีความมั่นคง (Security Council Panel of Experts) ซึ่งติดตามการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ
นางโธมัส-กรีนฟิลด์กล่าวว่า "เราไม่สามารถปล่อยให้งานที่คณะผู้เชี่ยวชาญกำลังทำอยู่สูญสิ้นไป"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นางโธมัส-กรีนฟิลด์ได้จัดการเจรจาระหว่างการเยือนกรุงโซลกับเจ้าหน้าที่อาวุโสเกี่ยวกับทางเลือกและแนวทางในการขยายบทบาทของคณะผู้เชี่ยวชาญฯ ที่ได้เฝ้าติดตามการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมาเป็นเวลา 15 ปี ซึ่งการวีโต้จากรัสเซียอาจทำให้การดำเนินการของคณะผู้เชี่ยวชาญฯ ต้องหยุดชะงัก
อย่างไรก็ตาม นางโธมัส-กรีนฟิลด์ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการที่อาจจะใช้ แต่เธอได้กล่าวหาทั้งรัสเซียและเกาหลีเหนือว่าได้ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ
นางโธมัส-กรีนฟิลด์ระบุว่า รัสเซียละเมิดมาตรการคว่ำบาตรโดยซื้ออาวุธซึ่งขัดต่อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ นอกจากนี้ สหรัฐยังมีความกังวลเกี่ยวกับการที่อิหร่านส่งอาวุธให้รัสเซียด้วย
ทั้งนี้ สหรัฐ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ กล่าวหาเกาหลีเหนือว่าเป็นผู้จัดหาอาวุธ ทั้งขีปนาวุธนำวิถี กระสุนปืนใหญ่ และอุปกรณ์ทางทหารอื่น ๆ เพื่อช่วยรัสเซียใช้โจมตียูเครน