สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยรูซาเลมได้สั่งการให้บุคลากรและครอบครัวจำกัดการเดินทาง หลังมีรายงานว่าอิสราเอลได้ปฏิบัติการโจมตีอิหร่านในวันนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากอิหร่านใช้โดรนและขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล เพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในประเทศซีเรีย
"เพื่อเป็นการระมัดระวังตัวหลังมีรายงานว่าอิสราเอลได้ปฏิบัติการตอบโต้อิหร่าน บุคลากรของรัฐบาลสหรัฐและสมาชิกครอบครัวจึงถูกจำกัดการเดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเทลอาวีฟ (รวมถึงเมืองเฮอร์เซอลียา (Herzliya), เนทันยา (Netanya) และเยฮูดา (Yehuda), เยรูซาเลม และเบียร์ชีบา (Be'er Sheva) จนกว่าจะมีประกาศแจ้งเพิ่มเติม" สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยรูซาเลมระบุบนเว็บไซต์ในวันนี้ (19 เม.ย.)
สำนักข่าวสปุตนิกของรัสเซียระบุว่า ปกติแล้วบุคลากรของรัฐบาลสหรัฐได้รับอนุญาตให้เดินทางไปมาระหว่าง 3 พื้นที่เหล่านี้เป็นการส่วนตัว
ขณะเดียวกันสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยรูซาเลมยังได้แนะนำให้พลเมืองสหรัฐระมัดระวังความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมักเกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อความปลอดภัยโดยปราศจากการแจ้งเตือนล่วงหน้า โดยภาวะแวดล้อมด้านความปลอดภัยยังคงซับซ้อนและสามารถเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
เพื่อเป็นการรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยซึ่งไม่มีการประกาศเตือนล่วงหน้านั้น สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยรูซาเลมอาจออกคำสั่งจำกัด หรือคำสั่งห้ามเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้บุคลากรของรัฐบาลสหรัฐและสมาชิกครอบครัวเดินทางไปยังบางพื้นที่ของอิสราเอล เช่น เมืองเก่าของเยรูซาเลม (Old City of Jerusalem) และเวสต์แบงก์