ผู้เชี่ยวชาญชี้หากสหรัฐแบนติ๊กต๊อกจะถือเป็นการกีดกันทางดิจิทัล

ข่าวต่างประเทศ Wednesday April 24, 2024 15:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดียเปิดเผยว่า การที่สหรัฐอาจแบนติ๊กต๊อก (TikTok) แอปพลิเคชันยอดนิยมของบริษัทไบต์แดนซ์ (Bytedance) ของจีนนั้นถือเป็นการกีดกันทางดิจิทัล (digital protectionism) ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน

"นี่เป็นกรณีของสิ่งที่เราเรียกกันว่าเป็นการกีดกันทางดิจิทัล และเป็นประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเครือข่ายดิจิทัลเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก" ศาสตราจารย์การ์เม แฟร์เร-ปาเวีย จากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอิสระแห่งบาร์เซโลนาระบุ

"ติ๊กต๊อกเป็นเครื่องมือที่ผู้คนจำนวนมากใช้เพื่อสร้างรายได้ ไม่ใช่แค่ผู้ที่มีธุรกิจหรือร้านค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ด้วย และในแง่ของการสร้างรายได้นั้น ผู้คนจำนวนมากจะได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง" ศาสตราจารย์แฟร์เร-ปาเวียกล่าวเสริม

เนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้งานติ๊กต๊อกในสหรัฐมากกว่า 150 ล้านราย ชาวอเมริกันจำนวนมากขึ้นได้คัดค้านฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องการบังคับให้ไบต์แดนซ์ขายกิจการติ๊กต๊อก มิฉะนั้นจะถูกห้ามการใช้งาน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ มีประชาชนมากกว่า 29,000 คนได้ลงชื่อในมูฟออน (MoveOn) เพื่อเรียกร้องให้รัฐสภาและคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ยกเลิกความพยายามที่จะสั่งแบนติ๊กต๊อก ซึ่งสร้างรายได้กว่า 1.47 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า ในเดือนมี.ค.สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายกำหนดให้ไบต์แดนซ์ขายติ๊กต๊อก ขณะที่วุฒิสภาได้อนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวแล้วเมื่อวันอังคาร (23 เม.ย.) เพื่อส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์แฟร์เร-ปาเวียระบุเสริมว่า "จะมีกลุ่มต่าง ๆ และบรรดานักกฎหมายที่จะโต้แย้งรัฐธรรมนูญของร่างกฎหมายนี้ แต่ถ้ากฎหมายยังคงดำเนินต่อไป ก็มีแนวโน้มว่าจะมีการถอนการลงทุนบางส่วนในระยะยาว"


แท็ก TikTok   สหรัฐ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ