สหรัฐกล่าวหารัสเซียอย่างเป็นทางการว่า มีการใช้อาวุธเคมีกับกองกำลังของยูเครน และประกาศในช่วงค่ำวันพุธ (1 พ.ค.) ว่า จะออกมาตรการคว่ำบาตรบุคคลและองค์กรต่าง ๆ ของรัสเซียเพิ่มเติม
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ในช่วงค่ำวานนี้ ซึ่งกล่าวหาว่ารัสเซียได้ละเมิดอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention หรือ CWC) ว่าด้วยการห้ามผลิตและใช้งานอาวุธเคมี โดยการใช้สารทำลายระบบทางเดินหายใจ (choking agent) อย่างคลอโรพิกริน (chloropicrin) กับกองกำลังของยูเครน
แถลงการณ์ระบุว่า "เราตัดสินใจเช่นนี้ สืบเนื่องจากการประเมินของเราที่เห็นว่า รัสเซียได้ใช้สารสำหรับควบคุมการจลาจล (แก๊สน้ำตา) เป็นหนึ่งในวิธีการในการสู้รบกับยูเครน ซึ่งถือเป็นการละเมิดอนุสัญญา CWC ด้วยเช่นเดียวกัน การใช้สารเคมีดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และอาจเป็นไปได้ว่ามาจากการที่กองกำลังรัสเซียต้องการขับไล่กองกำลังยูเครนออกจากฐานที่มั่น และสร้างความได้เปรียบเชิงยุทธวิธีในสนามรบ"
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า สารคลอโรพิกรินถูกใช้ในฐานะเป็นแก๊สพิษในสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ในปัจจุบันมีการใช้สารดังกล่าวอย่างแพร่หลายในการทำการเกษตรในฐานะยาฆ่าแมลง และไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เพื่อการทหารอีกต่อไป โดย "สารทำลายระบบทางเดินหายใจ" ชนิดนี้จะสร้างความเสียหายให้กับระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก ทั้งทำให้จมูก คอ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปอด เกิดความระคายเคือง
องค์การห้ามอาวุธเคมี (OPCW) ระบุว่า "หากสูดเข้าไป สารเคมีชนิดนี้จะทำให้ถุงลม (alveoli) และกระเปาะถุงลม (air sacs) ในปอดสร้างสารคัดหลั่งออกมา และสร้างความรู้สึกเหมือนกับจมน้ำ"