เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (2 พ.ค.) ว่า รัสเซียได้ส่งออกปิโตรเลียมกลั่นให้กับเกาหลีเหนือมากกว่า 165,000 บาร์เรลในเดือนมี.ค. ซึ่งละเมิดมติคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ (UN)
นายจอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ระบุว่า ปริมาณการส่งมอบน้ำมันของรัสเซียนั้นเกินขีดจำกัดการนำเข้าประจำปีที่กำหนดโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) สำหรับเกาหลีเหนือไปแล้ว
เกาหลีเหนือเผชิญข้อจำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่นไม่เกิน 500,000 บาร์เรลต่อปี ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของ UN ที่ลงนามเมื่อปี 2560 เพื่อตอบโต้การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
นายเคอร์บีแถลงต่อสื่อมวลชนว่า "ด้วยระยะทางที่ใกล้กันระหว่างท่าเรือพาณิชย์ของรัสเซียและเกาหลีเหนือ รัสเซียจึงสามารถขนส่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่อง"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปี 2565 รัสเซียและเกาหลีเหนือได้กระชับความร่วมมือทางทหารและความร่วมมือประเภทอื่น ๆ โดยรัสเซียได้ใช้ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในการทำสงครามกับยูเครน
ขณะเดียวกัน นายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า ขณะนี้ สหรัฐกำลังประสานงานกับชาติพันธมิตร รวมถึงออสเตรเลีย อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหภาพยุโรป (EU) เพื่อประกาศมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ในเดือนนี้
ทั้งนี้ การเปิดโปงการจัดส่งเชื้อเพลิงระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซียโดยสหรัฐนั้น มีขึ้นภายหลังคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระของ UN ซึ่งได้รับมอบหมายให้ติดตามการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือถูกยุบ เนื่องจากรัสเซียใช้อำนาจวีโต้