ปาเลสไตน์ออกโรงเตือนในวันนี้ (6 พ.ค.) ว่า อิสราเอลอาจก่อ "อาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา หลังจากที่อิสราเอลประกาศให้พลเรือนชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากบริเวณตะวันออกของเมืองราฟาห์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นการเตรียมพร้อมก่อนปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดิน
นายนาบิล อาบู รูเดเนห์ โฆษกของประธานาธิบดีปาเลสไตน์ แถลงว่า อิสราเอลกำลังเตรียมตัวก่ออาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหญ่ที่สุดด้วยการรุกรานเมืองราฟาห์ พร้อมกับระบุว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาต้องรับผิดชอบต่อการที่อิสราเอลดำเนินนโยบายที่อันตรายเช่นนี้
เขากล่าวว่า การรุกรานเมืองราฟาห์จะทำให้พลเรือนชาวปาเลสไตน์มากถึง 1.4 ล้านคนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ "การพลัดถิ่นและการสังหารหมู่เพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐดำเนินการทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ตลอดจนให้อิสราเอลรับผิดชอบต่อการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อิสราเอลมองว่าเมืองราฟาห์เป็นฐานที่มั่นสำคัญแห่งสุดท้ายของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา แต่ในขณะเดียวกัน เมืองราฟาห์ก็เป็นที่พักพิงของชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่นมากถึง 1.4 ล้านคน