กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (2 พ.ค.) ว่า สภาพอากาศร้อนจัดจากผลพวงของคลื่นความร้อนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุคลังกระสุนระเบิดที่ฐานทัพแห่งหนึ่งในจังหวัดกำปงสปือของประเทศกัมพูชาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทหารเสียชีวิตถึง 20 นายและบาดเจ็บอีกหลายราย ขณะเดียวกันมีเด็กถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 1 ราย
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ได้ทำลายรถบรรทุกกระสุนทั้งหมดและอาคารหลายแห่ง ขณะที่สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นบริเวณคลังเก็บกระสุน ซึ่งทำให้อาคารสำนักงานแห่งหนึ่งและโรงทหารใกล้เคียงพังเสียหาย นอกจากนี้ บ้านเรือนในละแวกใกล้เคียงอีก 25 หลังก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน
กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนเชื่อว่าคลื่นความร้อนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาวุธเก่าดังกล่าวเกิดระเบิด
"เหตุกระสุนระเบิดเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2567 เกิดจากปัญหาทางเทคนิค โดยอาวุธอยู่ในสภาพเก่าไม่สมบูรณ์ และสภาพอากาศร้อน" กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุในแถลงการณ์
อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ได้อธิบายถึงปัญหาแบบจำเพาะเจาะจง และไม่ได้อธิบายรายละเอียดว่าอากาศร้อนส่งผลให้กระสุนระเบิดได้อย่างไร
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ปฏิเสธข้อสงสัยที่ว่าเหตุระเบิดครั้งนี้เป็นฝีมือของทหารฝ่ายกบฏหรือการก่อการร้าย
กัมพูชาประกาศเตือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย.ว่า อุณหภูมิอาจพุ่งแตะ 43 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่ แม้คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกและอากาศเย็นลงในช่วงหลายวันข้างหน้าก็ตาม
ทั้งนี้ อุณหภูมิพุ่งแตะ 50 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ของประเทศฟิลิปปินส์ ส่งผลกระทบต่อนักเรียนนักศึกษากว่า 3.6 ล้านคน ส่วนสถานศึกษาถูกสั่งปิดเนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด
ด้านรัฐบาลไทยระบุว่า อากาศร้อนจัดในประเทศทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 30 คนในปีนี้ ขณะที่ปริมาณการใช้ไฟฟ้าพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์