รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (24 พ.ค.) ว่า ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจคว่ำบาตรองค์กร 9 แห่งที่ตั้งอยู่ในรัสเซีย รวมทั้งชาวรัสเซีย 1 ราย นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังคว่ำบาตรว่ำบาตรบริษัทไซปรัส 2 แห่ง ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้ออาวุธจากเกาหลีเหนือ ในขณะที่สงครามการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่แนวโน้มยุติลงในขณะนี้
นายโยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าวว่า ญี่ปุ่นประณามการขนส่งอาวุธจากเกาหลีเหนือไปยังรัสเซียอย่างรุนแรง ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดฉันทามติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)
นายฮายาชิกล่าวว่า "ในขณะที่รัสเซียยังคงเดินหน้ารุกรานยูเครน ญี่ปุ่นจึงมองว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับมติของประชาคมนานาชาติ"
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นระบุว่า ทรัพย์สินในญี่ปุ่นที่ถือครองโดยองค์กรที่ถูกคว่ำบาตรในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทขนส่งและสิ่งปลูกสร้างทางการทหาร และสินทรัพย์ของนักธุรกิจชาวรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตรนั้น จะถูกอายัดไว้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผู้นำของกลุ่ม G7 ร่วมกันประณามการขนส่งขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (ballistic missile) จากเกาหลีเหนือไปยังรัสเซียในแถลงการณ์ร่วมเมื่อเดือนก.พ. โดยเรียกร้องให้เกาหลีเหนือและรัสเซียยุติการกระทำดังกล่าวในทันที
นับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในเดือนก.พ. 2565 นั้น ญี่ปุ่นได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน รวมทั้งเจ้าหน้าที่คนสนิทของปธน.ปูติน และธนาคารกลางรัสเซีย