คณะผู้แทนของสภาคองเกรสสหรัฐ และนายเจนเซน หวง ซีอีโอของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ได้เดินทางถึงไต้หวันเมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) ซึ่งเกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่จีนได้ยุติการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน ซึ่งเป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปี
คณะผู้แทนดังกล่าวซึ่งนำโดยนายไมเคิล แม็กคอล สมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐเท็กซัส และประธานคณะกรรมการกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎร ถือเป็นเจ้าหน้าที่สภาคองเกรสกลุ่มแรกที่เยือนไต้หวันนับตั้งแต่ที่นายไล่ ชิงเต๋อ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีได้หวัน เมื่อวันที่ 20 พ.ค.
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายไล่จะพบปะกับเจ้าหน้าที่สภาคองเกรสสหรัฐในวันนี้ (27 พ.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับสันติภาพและเสถียรภาพในความสัมพันธ์ทางการค้าอินโดแปซิฟิก, ไต้หวัน-สหรัฐ และประเด็นอื่น ๆ
คณะผู้แทนของสภาคองเกรสสหรัฐยังประกอบด้วยนายยัง คิม สมาชิกพรรครีพับลิกินจากรัฐแคลิฟอร์เนีย, นายโจ วิลสัน สมาชิกพรรครีพับลิกินจากรัฐเซาท์แคโรไลนา, นายจิมมี ปาเนตตา สมาชิกพรรคเดโมแครตจากรัฐแคลิฟอร์เนีย, นายแอนดี บารร์ สมาชิกพรรครีพับลิกินจากรัฐเคนทักกี และนางคริสซี ฮูลาฮาน สมาชิกพรรคเดโมแครตจากรัฐเพนซิลเวเนีย
สำนักข่าวทีวีบีเอส (TVBS) ของไต้หวัน รายงานว่า นายหวง ซีอีโอของอินวิเดีย ได้เดินทางถึงไต้หวันเมื่อวานนี้เช่นกัน โดยคาดว่าจะเข้าร่วมงานแสดงเทคโนโลยีในกรุงไทเป
ที่ผ่านมานั้นนายหวงมักจะกล่าวว่าไต้หวันมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระดับโลก โดยเฉพาะอย่างบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) ที่ผลิตชิปขั้นสูงส่วนใหญ่ของโลก ซึ่งรวมถึงชิปที่ทางอินวิเดียออกแบบด้วย
"ไต้หวันเป็นศูนย์กลางของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีของโลก" นายหวงให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันที่ 20 พ.ค. และยังกล่าวด้วยว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีต้องพึ่งพาไต้หวันเป็นอย่างมาก และคาดว่าจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง