นางแอคเน บิโลไทต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของลิทัวเนียประกาศในวันศุกร์ (24 พ.ค.) ว่า สมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จำนวน 6 ประเทศที่อยู่ติดกับรัสเซีย ตัดสินใจผนึกกำลังกันจัดตั้ง "กำแพงโดรน" (drone wall) เพื่อปกป้องชายแดนของตนเอง
ทั้งนี้ นางบิโลไทต์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นบีเอ็นเอส (BNS) ว่า "นี่เป็นเรื่องใหม่อย่างแท้จริง กำแพงโดรนที่แผ่ขยายออกไปตั้งแต่นอร์เวย์จรดโปแลนด์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการใช้โดรนและเทคโนโลยีอื่นในการปกป้องดินแดน"
"ไม่ใช่แค่เพียงโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพหรือระบบเฝ้าระวังเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโดรนและเทคโนโลยีอื่น ๆ ซึ่งช่วยให้เราป้องกันการยั่วยุจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรและการป้องกันการลักลอบขนของได้" นางบิโลไทต์กล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ประเทศอื่น ๆ ที่มีส่วนร่วมนอกเหนือจากลิทัวเนีย ประกอบด้วยประเทศข้างเคียงอย่างลัตเวียและเอสโตเนีย ตลอดจนโปแลนด์ ฟินแลนด์ และนอร์เวย์
ทั้งนี้ รายละเอียดต่าง ๆ ในด้านเงินทุน ช่วงเวลา และเทคนิคของโครงการยังไม่ได้รับเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นางบิโลไทต์กล่าวว่า เงินทุนของสหภาพยุโรป (EU) อาจมีส่วนสำคัญและแต่ละประเทศต้อง "เตรียมตัว" ให้พร้อม
นางมารี รันทาเนน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฟินแลนด์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ Yle ของฟินแลนด์ว่า แผนกำแพงโดรนจะได้รับการพัฒนาทันเวลา
ฟินแลนด์ ซึ่งเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโตในปี 2566 มีพรมแดนติดกับชายแดนรัสเซียยาว 832 ไมล์
รัฐมนตรีกลาโหมจาก 6 ประเทศที่มีส่วนร่วมในโครงการกำแพงโดรนได้ประชุมร่วมกันที่กรุงริกา เมืองหลวงของลัตเวีย ในวันที่ 23-24 พ.ค. โดยพวกเขาหารือเกี่ยวกับภัยคุกคามความมั่นคงตลอดจนประเด็นด้านยุทธวิธีที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทหารเช่น "การขนย้ายเครื่องมือ" โดยอ้างถึงกรณีที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่รัสเซียหรือเบลารุสส่งผู้ขอลี้ภัยที่ไม่มีเอกสารจำนวนมากจากแอฟริกาและตะวันออกกลางข้ามพรมแดน