นางจูดิธ คอลลินส์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า นิวซีแลนด์มีแผนเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหาร ในขณะที่ประเทศกำลังพยายามแทนที่เครื่องจักรที่เก่าและกระชับสัมพันธ์กับพันธมิตรเก่าแก่อย่างออสเตรเลียและสหรัฐให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นางคอลลินส์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กในสิงคโปร์ว่า จะพิจารณาแผนศักยภาพด้านกลาโหมในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ที่จะตอบสนองความต้องการจำเป็นของรัฐบาลจนถึงปี 2583
"เราตระหนักดีว่า เราจำเป็นต้องเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม แต่แทนที่จะเพิ่มเฉย ๆ เราจำเป็นต้องแน่ใจว่า เราดำเนินการในทิศทางที่เราสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับพันธมิตรด้านความมั่นคงของเราได้จริง ๆ"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นิวซีแลนด์กำลังพยายามกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับพันธมิตรเก่าแก่เช่น ออสเตรเลียและสหรัฐ อีกทั้งยังพิจารณาจะเข้าร่วมในข้อตกลงออคัส (AUKUS) ด้วย และตระหนักดีว่า นิวซีแลนด์ได้รับการคาดหวังว่าจะต้องเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมมากขึ้น โดยสัดส่วนการใช้ด้านกลาโหมนิวซีแลนด์ ซึ่งคิดเป็นราว 1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ลดลงสู่ระดับ 4.95 พันล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จาก 5.3 พันล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์เมื่อปีที่แล้ว
นางคอลลินส์กล่าวว่า นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ระบุอย่างขัดเจนว่า การใช้จ่ายด้านกลาโหมจำเป็นต้องเพิ่มขึ้นเป็น 2% ของ GDP ตามแนวทางขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) โดยนิวซีแลนด์ทำได้ดีในการจัดการความต้องการด้านความมั่นคงขณะเดียวกันก็รักษาความสัมพันธ์กับจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดเอาไว้ได้