ประธานาธิบดีฆาบิเอร์ มิเลย์ ผู้นำอาร์เจนตินาเปิดเผยเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ว่า รัฐบาลอาร์เจนตินามีแผนเลิกจ้างข้าราชการ 50,000 ตำแหน่ง อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรัดเข็มขัดที่เริ่มดำเนินการในเดือนธ.ค.
ปธน.มิเลย์ได้เน้นย้ำถึงการลดค่าใช้จ่ายในภาครัฐลงอย่างมากในการปาฐกถาที่การประชุมละติน อเมริกา บิสเนส ฟอรัม ครั้งที่ 10 (10th Latin American Business Forum) โดยระบุว่า "เราดำเนินการปรับเปลี่ยน 7 จุด ซึ่งไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ดำเนินมาตรการเข้มงวดเพียงครึ่งเดียวก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า"
ปธน.มิเลย์กล่าวว่า นโยบายของเขาที่เสนอให้มีการควบคุมการใช้จ่ายทั้งหมดของภาครัฐเพื่อส่งเสริมการปฏิรูปเงินบำนาญสามารถผ่านไปถึงรัฐสภาได้ และระบุเสริมว่า การเปลี่ยนแปลงที่เสนอจะทำให้เงินทุนทางการคลังมีมากขึ้น
"เมื่อใดก็ตามที่นักการเมืองที่เสื่อมทรามทางการคลังต้องการทำลายดุลการคลัง ผมจะบอกกับพวกเขาตอนนี้ ผมเคยพูดไปแล้ว แต่ผมขอพูดอีกครั้ง และจะย้ำอีกครั้งให้เบื่อตายกันไปเลยว่า ผมจะขวางไว้ไม่ให้มันเกิดขึ้น"
นับตั้งแต่ที่นายมิเลย์เข้าดำรงตำแหน่งปธน.เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2566 รัฐบาลอาร์เจนตินาได้ปรับลดจำนวนกระทรวง และปรับลดโครงสร้างของรัฐบาลทั้งหมดลงครึ่งหนึ่ง" ปธน.มิเลย์กล่าว
นอกจากนี้ นายมิเลย์กล่าวกับบรรดาผู้นำทางธุรกิจ นักลงทุน และนักเศรษฐศาสตร์ว่า "เรากำลังจะลงเอยที่การเลิกจ้างข้าราชการ 75,000 คน โดยเราได้เลิกจ้างแล้ว 25,000 คน"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แม้ว่ามาตรการเข้มงวดของนายมิเลย์ถูกคัดค้านจากฝ่ายค้าน สมาพันธ์แรงงาน สหภาพแรงงาน และองค์กรทางสังคม แต่นายมิเลย์ก็ยังคงปกป้องมาตรการเหล่านี้ โดยระบุว่ามีความจำเป็น