กระทรวงการค้าของโคลอมเบียเรียกร้องให้มีการจำกัดการขายถ่านหินให้กับอิสราเอล เพื่อตอบโต้การทำสงครามในกาซาที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงเอกสารภายในที่ระบุว่า กระทรวงฯ ได้แนะนำให้คณะกรรมการที่รับผิดชอบด้านภาษีและการค้าต่างประเทศดำเนินการจำกัดการจัดส่งถ่านหิน
ความสัมพันธ์ของอิสราเอลกับรัฐบาลต่างๆ ในภูมิภาคลาตินอเมริกาย่ำแย่ลงในปีนี้ ทว่าประเทศส่วนใหญ่ดำเนินมาตรการทางการทูตมากกว่ามาตรการคว่ำบาตรทางการค้า โดยโคลอมเบียเป็นซัพพลายเออร์ถ่านหินรายใหญ่ที่สุดของอิสราเอล โดยขายถ่านหินให้กับอิสราเอลคิดเป็นมูลค่าประมาณ 450 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
กระทรวงการค้าระบุเสริมว่า ข้อจำกัดด้านถ่านหินนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยุติความขัดแย้งที่ใช้อาวุธ และควรบังคับใช้จนกว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะสิ้นสุดลง โดยบริษัทดรัมมอนด์ คอมปะนี (Drummond Company) ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแอละแบมาของสหรัฐ และบริษัทในเครือของเกลนคอร์ (Glencore) ในโคลอมเบียเป็นเพียง 2 ซัพพลายเออร์หลักของอิสราเอล
ทั้งนี้ โคลอมเบียและอิสราเอลมีความสัมพันธ์ที่ดีกันในอดีต และมีข้อตกลงการค้าเสรีที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2563 แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเสื่อมถอยลงอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยนายกุสตาโว เปโตร ประธานาธิบดีโคลอมเบียกล่าวว่า การเข้าปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซานั้นถือเป็น "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ในขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเรียกนายเปโตรว่าเป็น "ผู้สนับสนุนกลุ่มฮามาสที่เป็นพวกต่อต้านยิว" โดยทั้งสองประเทศได้ยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกันในเดือนพ.ค.