สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม (SIPRI) ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองจากสวีเดน เปิดเผยในวันนี้ (17 มิ.ย.) ว่า จำนวนหัวรบนิวเคลียร์ที่ติดตั้งในขีปนาวุธและเครื่องบินเพิ่มขึ้นในระดับที่น่ากังวล และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดหลายปีข้างหน้า
SIPRI รายงานโดยอ้างข้อมูลจากเดือนม.ค.ว่า จำนวนหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมใช้งานเพิ่มขึ้นแตะ 3,904 ลูก ซึ่งสวนทางกับจำนวนหัวรบนิวเคลียร์โดยรวมที่มีแนวโน้มลดลง
"ในขณะที่จำนวนหัวรบนิวเคลียร์โดยรวมทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการถอนอาวุธยุคสงครามเย็นนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่น่าเสียดายที่จำนวนหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมใช้งานกลับเพิ่มขึ้นทุกปี" นายแดน สมิธ ผู้อำนวยการของ SIPRI ระบุ "แนวโน้มดังกล่าวดูเหมือนจะดำเนินต่อไปและรวดเร็วขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง"
นายสมิธกล่าวว่า ปัจจุบันโลกอยู่ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ และอาวุธนิวเคลียร์กำลังมีบทบาทมากกว่าในช่วงหลังสงครามเย็น โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มักแสดงแสนยานุภาพด้วยการซ้อมรบอยู่เป็นประจำ ท่ามกลางสงครามที่ยังคงดำเนินอยู่ในยูเครน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัสเซียและสหรัฐถือครองอาวุธนิวเคลียร์รวมกันเกือบ 90% ของทั้งหมดทั่วโลก ส่วนทางด้านจีนนั้น แม้ว่าจะถือครองน้อยกว่ามาก แต่ SIPRI ประมาณการว่าจำนวนนิวเคลียร์ของจีนเพิ่มขึ้นแตะ 500 ลูก จาก 410 ลูกในปีก่อนหน้า