รัฐแคนซัสของสหรัฐได้ยื่นฟ้องบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) เมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) โดยกล่าวหาว่าไฟเซอร์ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ด้วยการปกปิดความเสี่ยง อีกทั้งยังกล่าวอ้างความเท็จเกี่ยวกับประสิทธิผลของวัคซีน
คดีที่ยื่นต่อศาลแขวงโทมัส เคาน์ตีอ้างว่า การกระทำของไฟเซอร์ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐแคนซัส และทางรัฐกำลังเรียกร้องค่าเสียหายทางการเงินที่ไม่ระบุรายละเอียด
นายคริส โคบัค อัยการสูงสุดของรัฐแคนซัสระบุว่า "ไฟเซอร์ได้ออกแถลงการณ์ที่ทำให้เข้าใจผิดหลายครั้งเพื่อหลอกลวงสาธารณชนเกี่ยวกับวัคซีนในช่วงเวลาที่ชาวอเมริกันต้องการความจริง"
คดีดังกล่าวอ้างว่า ไม่นานหลังจากเริ่มใช้วัคซีนในช่วงต้นปี 2564 ทางไฟเซอร์ได้ปกปิดหลักฐานที่เชื่อมโยงวัคซีนกับภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ เช่น การแท้งบุตร, รวมถึงอาการอักเสบของหัวใจที่เรียกว่ากล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
ไฟเซอร์ตอบโต้โดยระบุว่า "คำรับรองของไฟเซอร์เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีความถูกต้องแม่นยำและอิงตามหลักวิทยาศาสตร์" พร้อมเสริมว่า คดีดังกล่าวไม่มีมูล
ด้านรัฐแคนซัสกล่าวหาเพิ่มเติมว่า ไฟเซอร์ได้อ้างอย่างเป็นเท็จว่า วัคซีนของบริษัทซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกับไบออนเทค (BioNTech) ซึ่งเป็นบริษัทพันธมิตรในเยอรมนีสำหรับไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมนั้น ยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านสายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ที่กลายพันธุ์ และไม่เพียงป้องกันความเจ็บป่วยเท่านั้น แต่ยังป้องกันการแพร่เชื้ออีกด้วย
นายโคบัคกล่าวเมื่อวานนี้ว่า รัฐอื่น ๆ ได้ร่วมมือกับรัฐแคนซัสในการสืบสวน และคาดว่าจะยื่นฟ้องร้องเช่นกัน ขณะที่ทางไบออนเทคไม่ใช่จำเลยในคดีนี้