บรรดาสายลับของสหรัฐเชื่อว่า ผู้นำจีนแทบไม่เห็นประโยชน์จากการเลือกตั้งระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ที่จะมีขึ้นในปีนี้
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐประเมินก่อนการดีเบตครั้งแรกในศึกเลือกตั้งปธน.สหรัฐในสัปดาห์หน้าว่า จีนไม่ได้มีความนิยมชมชอบที่ชัดเจนในตัวแคนดิเดตคนใดคนหนึ่งในสองคนนี้เป็นพิเศษ
ข้อสรุปดังกล่าวบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก จะยังคงเป็นไปในเชิงลบในระยะยาว แม้ว่าการประชุมระดับสูงที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้จะถูกมองว่าเป็นความพยายามในการจัดการความขัดแย้งก็ตาม โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้กระทบกระทั่งกันแทบทุกเรื่องตั้งแต่ด้านเทคโนโลยี สิทธิมนุษยชน ไปจนถึงทะเลจีนใต้
การประเมินของสหรัฐสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่จีน โดยพวกเขากล่าวว่า มุมมองของทางการจีนคือแคนดิเดตทั้งสองคนมีเจตนาที่จะควบคุมจีนและสกัดกั้นการผงาดขึ้นของจีน
นายเกา จือไค อดีตนักการทูตจีนซึ่งทำหน้าที่เป็นล่ามให้กับนายเติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำจีนผู้ล่วงลับกล่าวว่า "ไม่มีแคนดิเดตคนไหนเลยที่สมบูรณ์พร้อม ... ไบเดนเป็นนักรบสงครามเย็น ที่ไม่สนใจว่าจะผลักดันให้โลกเผชิญกับความขัดแย้งหรือไม่ ขณะที่ทรัมป์ก็อาจจะคว่ำบาตรและขึ้นภาษีกับจีนตามนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" (America-first) ของเขา"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โฆษกสำนักงานผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประเมินข่าวกรองเกี่ยวกับมุมมองของจีนที่มีต่อการเลือกตั้งสหรัฐในปี 2567 ขณะที่นายหลิว เผิงหยู โฆษกประจำสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันระบุหลังถูกถามเกี่ยวกับการเลือกตั้งของสหรัฐว่า จีนไม่แสดงความเห็นเกี่ยวกับกิจการภายในของสหรัฐ