ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้ลงนามข้อตกลงมากกว่า 10 ฉบับร่วมกับประธานาธิบดีโต เลิม ผู้นำเวียดนาม เมื่อวานนี้ (20 มิ.ย.) และได้เสนอว่าจะจัดหาเชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงก๊าซธรรมชาติให้กับเวียดนาม โดยการเยือนเวียดนามครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัสเซียในการกระชับความสัมพันธ์ในเอเชีย หลังจากที่ถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติเนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายปูตินกับนายเลิมเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การสำรวจน้ำมันและก๊าซ รวมถึงพลังงานสะอาด ยิ่งไปกว่านั้น ผู้นำทั้งสองยังตกลงที่จะร่วมมือกันในการพัฒนาแผนงานสำหรับศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในเวียดนามอีกด้วย
ปธน.ปูตินกล่าวว่า รัสเซียและเวียดนามมีความสนใจร่วมกันที่จะสร้างกรอบการทำงานด้านความมั่นคงที่เชื่อถือได้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ขณะที่นายเลิมเสริมว่า ทั้งรัสเซียและเวียดนามควรร่วมมือกันเพิ่มเติมในด้านความมั่นคงและกลาโหมเพื่อรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคงรูปแบบใหม่
นายเหงียน คัก เกียง นักวิเคราะห์จากสถาบันเอเชียอาคเนย์ศึกษา ยูซุฟ อิสฮัค (ISEAS-Yusof Ishak Institute) ในสิงคโปร์ ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ปธน.ปูตินเดินทางเยือนจีน เกาหลีเหนือ และเวียดนาม มีเป้าหมายเพื่อก้าวข้ามการถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติ
นายเกียงกล่าวเสริมว่า รัสเซียมีความสำคัญต่อเวียดนามด้วยเหตุผล 2 ประการ ประการแรกคือ รัสเซียเป็นผู้จัดหายุทโธปกรณ์ทางทหารรายใหญ่ที่สุดให้กับเวียดนาม และประการที่สองคือ เทคโนโลยีสำรวจน้ำมันของรัสเซียช่วยรักษาสิทธิในอธิปไตยของเวียดนามในทะเลจีนใต้ที่มีข้อพิพาท