สหรัฐและบรรดาชาติพันธมิตรซึ่งรวมถึงญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ได้ร่วมกันประณามความร่วมมือทางทหารระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ โดยระบุว่าความร่วมมือของทั้งสองประเทศได้สร้างความกังวลอย่างยิ่งยวดและเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพของภูมิภาค
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยแถลงการณ์ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ทูตของสหรัฐ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ได้หารือกันหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ บรรลุข้อตกลงทางทหารเพื่อปกป้องกันและกันหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกโจมตี โดยสนธิสัญญาดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการเดินทางเยือนเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปีของปธน.ปูติน
สหรัฐและชาติพันธมิตรในเอเชียออกแถลงการณ์ระบุว่า การที่ปธน.ปูตินเดินทางเยือนเกาหลีเหนือครั้งนี้เป็นความก้าวหน้าของการส่งมอบอาวุธจากรัฐบาลเกาหลีเหนือไปยังรัสเซีย เพื่อใช้ในการทำสงครามกับยูเครน พร้อมระบุว่าความร่วมมือดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่ต้องการการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี ยึดมั่นในระบอบการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และสนับสนุนประชาชนชาวยูเครนในการต่อสู้เพื่อปกป้องเสรีภาพและเอกราชจากการรุกรานอันโหดร้ายของรัสเซีย
ทั้งนี้ สหรัฐและชาติพันธมิตรกล่าวหาว่า นายคิม จอง อึน จัดส่งกระสุนปืนใหญ่หลายล้านนัดและขีปนาวุธหลายลูกให้กับรัสเซียเพื่อทำสงครามกับยูเครน โดยอาวุธยุทโธปกรณ์ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับยูเครนหลังรัฐสภาสหรัฐระงับความช่วยเหลือทางทหารครั้งใหม่แก่ยูเครน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยูเครนได้รับมอบอาวุธใหม่มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากบรรดาชาติพันธมิตรของสหรัฐและยุโรป