นายฌ็อง-ฟิลิปป์ ต็องกี ส.ส. พรรคเนชันแนล แรลลี (RN) ฝ่ายขวาจัดของฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวานนี้ (23 มิ.ย.) ว่า หากพรรค RN ภายใต้การนำของนางมารีน เลอ แปน ชนะเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ ทางพรรคจะยุติการดำเนินนโยบายขาดดุลงบประมาณที่ทำมาหลายทศวรรษ และจะยึดมั่นในกฎระเบียบทางการคลังของสหภาพยุโรป (EU)
นายต็องกี ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในด้านนโยบายการเงินของพรรค RN ถือเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หากพรรค RN ซึ่งมีนโยบายต่อต้านผู้อพยพ สามารถครองเสียงข้างมากเด็ดขาดได้ในการเลือกตั้งสองรอบในวันที่ 30 มิ.ย. และ 7 ก.ค.นี้
"เราจะไม่ปล่อยให้การขาดดุลพุ่งสูงเกินควบคุม เราจะไม่ใช้ลูกไม้ใด ๆ ซึ่งฝรั่งเศสไม่มีอีกต่อไปแล้ว และเราจะยุติการขาดดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่องที่ทำกันมานานถึง 50 ปี" นายต็องกีกล่าวในการสัมภาษณ์กับรอยเตอร์
นายต็องกีกล่าวว่า พรรค RN ซึ่งเพิ่งได้ติดต่อกับนักลงทุนบางรายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีความมุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นว่า ทางพรรคสามารถไว้วางใจได้ในการบริหารการเงินของประเทศ หากได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นรัฐบาลเป็นครั้งแรก หลังจากถูกมองเป็นพรรคการเมืองนอกสายตามานานหลายปี
นายต็องกีกล่าวว่า แผนงานของพรรค RN ในการเลือกตั้งครั้งนี้จะหาเงินทุนทั้งหมดมาจากการปิดช่องโหว่ทางภาษี ลดขั้นตอนราชการ และปรับลดงบประมาณรายจ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของสวัสดิการสำหรับผู้อพยพ
"สิ่งที่ผมอยากจะบอกกับนักธุรกิจและตลาดการเงินก็คือ พรรคเนชันแนล แรลลี ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องประสบความสำเร็จ เราจะไม่สามารถหวังพึ่งพาความเมตตา (ของตลาดการเงิน) แบบที่นายมาครงเคยได้รับ" นายต็องกีกล่าว
ทั้งนี้ นักลงทุนและบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายบางอย่างของพรรค RN เช่น นโยบายลดภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับพลังงานจาก 20% เหลือ 5.5% ซึ่งทาง Standard & Poor's ชี้ว่า นโยบายนี้อาจส่งผลกระทบต่อเครดิตเรตติ้งของฝรั่งเศส หลังจากเพิ่งปรับลดอันดับไปเมื่อเดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายต็องกียืนยันว่า ฝรั่งเศสจะต้องเดินหน้าแผนการลดการขาดดุลให้เหลือ 3% ของ GDP ภายในปี 2570 ตามที่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้ให้คำมั่นไว้ภายใต้กฎการคลังของ EU หรือข้อตกลงว่าด้วยเสถียรภาพและการเติบโต (Stability and Growth Pact)
"เราต้องเคารพในข้อตกลงว่าด้วยเสถียรภาพและการเติบโต ... ฝรั่งเศสต้องรักษาคำพูด" นายต็องกีกล่าว
ทั้งนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของฝรั่งเศสที่มีต่อตลาดการเงินเริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งนายต็องกีมองว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความสามารถของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในการแทรกแซงเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด หากจำเป็น
"ECB เคยทำมาแล้ว และจะทำอีกครั้งโดยอิสระแม้ว่าจะไม่จำเป็นก็ตาม เพราะเศรษฐกิจฝรั่งเศสยังคงแข็งแกร่ง" นายต็องกีกล่าว พร้อมเสริมว่า เงินออมจำนวนมหาศาลของประชาชนชาวฝรั่งเศสจะช่วยบรรเทาแรงกดดันจากตลาดได้เช่นกัน
นอกจากนี้ นายต็องกียังกล่าวด้วยว่า หากพรรค RN ได้เป็นรัฐบาล พวกเขาจะไม่ยกเลิกมาตรการของนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ในการดึงดูดธนาคารและกองทุนต่าง ๆ จากลอนดอนในยุคหลังเบร็กซิต (Brexit)
ขณะเดียวกัน นายต็องกียินดีกับการที่ EU เรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน พร้อมเสริมว่า พรรค RN สนับสนุนการค้าเสรีบนพื้นฐานของความเป็นธรรม ซึ่งเขามองว่า การค้ากับจีนในปัจจุบันไม่เป็นธรรม เนื่องจากจีนมีนโยบายอุดหนุนภาคธุรกิจเป็นจำนวนมาก
"บางทีจีนอาจจะประพฤติตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเราสามารถสร้างการค้าที่เป็นธรรมได้ มันจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย" นายต็องกีกล่าว