นายมาร์ค รุตเตอร์ วัย 57 ปี นายกรัฐมนตรีของเนเธอร์แลนด์ ได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) คนใหม่ โดยเขาเป็นผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียอย่างเผ็ดร้อน และเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายรุตเตอร์เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังการสนับสนุนทางการทหารของยุโรปแก่ยูเครนนับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเมื่อปี 2565 และเป็นผู้ที่กล่าวว่า ความพ่ายแพ้ในสมรภูมิของรัสเซียเป็นเรื่องสำคัญในการรับรองสันติภาพของยุโรป
มุมมองดังกล่าวของเขาได้รับอิทธิพลอย่างมากจากเหตุการณ์เครื่องบินเที่ยวบิน MH17 ตกในยูเครนในปี 2557 ซึ่งเนเธอร์แลนด์กล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย ที่ผู้เสียชีวิต 196 คนจาก 298 คนเป็นชาวเนเธอร์แลนด์
นายรุตเตอร์กล่าวกับสหประชาชาติในเดือนก.ย. 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลา 7 เดือนหลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบว่า "เขาจะไม่หยุดจนแค่ยูเครนแน่หากเราไม่หยุดเขาตอนนี้ สงครามนี้มันใหญ่เกินกว่าจะเป็นเรื่องของยูเครนฝ่ายเดียว นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการยึดมั่นในหลักนิติธรรมระดับนานาชาติ"
นายรุตเตอร์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรกในปี 2553 และกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดของเนเธอร์แลนด์ ก่อนจะประกาศเมื่อปีที่แล้วว่าเขามีแผนจะวางมือจากการเมืองในประเทศ
ภายใต้การนำของเขา เนเธอร์แลนด์ได้เพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมให้มากกว่าเกณฑ์ 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่นาโตกำหนดไว้ ทั้งยังได้จัดหาเครื่องบินขับไล่ F-16 ปืนใหญ่ โดรน และกระสุนให้กับยูเครน และทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาลในกองทัพของตนเอง
ทั้งนี้ หนทางสู่การกุมบังเหียนของนาโตแทนนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตที่จะก้าวลงจากตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังดำรงตำแหน่งมานานเกือบ 10 ปี กลายเป็นเรื่องที่แน่ชัดแล้ว หลังจากที่ปธน.โรมาเนียถอนตัวออกจากการเป็นแคนดิเดต