ผลการสำรวจของสำนักข่าว CNN พบว่า ชาวอเมริกันซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์การแสดงวิสัยทัศน์ในวันนี้ จำนวน 67% ให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นฝ่ายชนะการแสดงวิสัยทัศน์ และมีเพียง 33% ที่ให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นผู้ชนะ
เมื่อเทียบกับก่อนการดีเบต ชาวอเมริกันจำนวน 55% คาดว่านายทรัมป์จะเป็นฝ่ายชนะ และ 45% คาดว่าปธน.ไบเดนจะเป็นผู้ชนะ
ทั้งนี้ การแสดงออกในการแสดงวิสัยทัศน์วันนี้ของปธน.ไบเดนและนายทรัมป์ถือเป็นปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญต่อมุมมองของชาวอเมริกัน ขณะที่ปธน.ไบเดนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับภาษากายที่ปรากฎในการดีเบตครั้งนี้
กลุ่มผู้สนับสนุนทางการเงินของพรรคเดโมแครตแสดงความตื่นตระหนก หลังเห็นผลงานการแสดงวิสัยทัศน์ที่น่าผิดหวังของปธน.ไบเดน ซึ่งร่วมเวทีกับนายทรัมป์ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย
"นี่คือหายนะ และแย่กว่าที่ผมคาดไว้เสียอีก ทุกคนที่ผมพูดด้วยต่างคิดว่าไบเดนควรถอนตัวได้แล้ว" ผู้สนับสนุนทางการเงินรายหนึ่งกล่าว
"เกมจบแล้ว ไบเดนต้องไปแล้ว และต้องออกไปตอนนี้ ซึ่งถ้าเขาไม่ยอมออกไปเราจะแย่กันไปทั้งหมด" ที่ปรึกษาฝ่ายรณรงค์หาเสียงรายหนึ่งของพรรคเดโมแครตกล่าว และเสริมว่า "การดีเบตในวันนี้แย่กว่าที่โรนัลด์ เรแกนทำไว้ในปี 2527 หรือที่จอร์จ ดับเบิลยู บุชทำในปี 2547 หรือบารัค โอบามาในปี 2555"
ด้านนางเคท เบดิงฟิลด์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทำเนียบขาว กล่าวว่า "นี่เป็นผลงานการดีเบตที่น่าผิดหวังมาก สิ่งสำคัญที่สุดที่ไบเดนต้องทำคือการพิสูจน์ให้ชาวอเมริกันเห็นว่าเขายังคงมีพลังและความแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้"
ทั้งนี้ กลุ่มผู้สนับสนุนทางการเงินของพรรคเดโมแครตเตรียมเข้าพบนายเจมี แฮร์ริสัน ประธานคณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครตในวันนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการดีเบตครั้งนี้
ปัญหาของปธน.ไบเดนเริ่มแสดงให้เห็นในวันนี้ ตั้งแต่การสะดุดประตูที่สตูดิโอของสำนักข่าว CNN และขณะที่กำลังกล่าวแสดงวิสัยทัศน์นั้น ปธน.ไบเดนได้กล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง และมีอาการเหม่อลอยในบางครั้ง และต้องครุ่นคิดเป็นเวลานานก่อนที่จะตอบคำถาม
นอกจากนี้ ในการตอบบางคำถาม ดูเหมือนว่าปธน.ไบเดนใช้หลักไวยากรณ์ที่ไม่ถูกต้อง จนทำให้นายทรัมป์ถึงกับเสียดสีว่า "ผมไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรในตอนท้ายประโยคเมื่อสักครู่นี้ และผมไม่คิดว่าเขารู้ว่าเขากำลังพูดอะไรเหมือนกัน"