"ไบเดน" อ้างอาการเจ็ตแล็กเป็นเหตุทำผลงานย่ำแย่ในศึกดีเบตครั้งแรกกับ "ทรัมป์"

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐโทษว่าแผนการเดินทางไปยังฝรั่งเศสและอิตาลีในเวลาไม่กี่สัปดาห์ก่อนการดีเบตครั้งหายนะของเขากับอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสาเหตุให้เขาทำผลงานบนเวทีได้ย่ำแย่ พร้อมพยายามอธิบายช่วงเวลาที่ทำให้การดีเบตศึกชิงเก้าอี้ปธน.ประจำปี 2567 พลิกผันและตัดโอกาสการได้เป็นปธน.อีกสมัยของเขา

ปธน.ไบเดนกล่าวกับบรรดาผู้บริจาคของพรรคเดโมแครตที่งานระดมทุนในรัฐเวอร์จิเนียในวันอังคาร (2 ก.ค.) ว่า "ผมไม่ได้ทำเต็มที่ในคืนนั้น แต่ก็อย่างที่ทุกท่านทราบกัน ผมไม่ค่อยฉลาดเท่าไรนักที่ตัดสินใจจะเดินทางรอบโลก 2-3 ครั้ง ผ่านไทม์โซนประมาณ 100 ไทม์โซนเห็นจะได้ ซึ่งจริง ๆ ก็ประมาณ 15 ไทม์โซนนั่นแหละ"

ปธน.ไบเดนกล่าวว่า "ผมไม่ได้ฟังคำเตือนของทีมงานและกลับมา และเกือบจะหลับบนเวที ซึ่งนั่นไม่ใช่ข้อแก้ตัว แต่เป็นเพียงการอธิบายเท่านั้น" ซึ่งเป็นการชี้แจงยาวที่สุดเกี่ยวกับสภาพของเขาระหว่างการดีเบตครั้งแรกกับอดีตปธน.ทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งนี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในเดือนมิ.ย. ปธน.ไบเดนเดินทางไปยังฝรั่งเศสเพื่อร่วมฉลองครบรอบ 80 ปีของการยกพลขึ้นบกในวันดีเดย์และงานเลี้ยงอาหารค่ำของรัฐ ก่อนจะเดินทางกลับไปยังยุโรปในอีกไม่กี่วันต่อมาเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7 ตามด้วยการเดินทางไปยังเมืองลอสแอนเจลิสเพื่อเข้าร่วมงานระดมทุนจากคนดัง

ทั้งนี้ ก่อนที่ขึ้นเวทีดีเบตกับอดีตปธน.ทรัมป์ในแอตแลนตา ปธน.ไบเดนได้ใช้เวลากว่าหนึ่งสัปดาห์โดยไม่ออกสื่อในการไปเยือนบ้านพักตากอากาศของเขาในรัฐเดลาแวร์ และเตรียมตัวสำหรับศึกดีเบตที่แคมป์เดวิด

คำอธิบายเรื่องอาการเจ็ตแล็ก (Jet lag) มีขึ้นหลังจากที่ นางคารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคารว่า เหล่าที่ปรึกษาของปธน.ไบเดนระบุว่า อาการสั่นคลอนของเขามาจากไข้หวัด โดยเขายังคงต้องรับมือกับอาการป่วย แต่ไม่ได้รับประทานยาก่อนลุยศึกดีเบตกับอดีตปธน.ทรัมป์