นาทีนี้ ชื่อของนายเคียร์ สตาร์เมอร์ หรือ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ วัย 61 กำลังเป็นที่จับตาอย่างมาก หลังจากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหน้าคูหาเลือกตั้งหรือเอ็กซิตโพลบ่งชี้ว่า พรรคแรงงาน (Labour Party) ของนายสตาร์เมอร์ มีแนวโน้มที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งรัฐสภาอังกฤษอย่างถล่มทลาย ซึ่งจะเปิดทางให้นายสตาร์เมอร์ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ
เอ็กซิตโพลระบุว่า พรรคแรงงานจะกวาดที่นั่งในรัฐสภาได้ 410 ที่นั่ง ซึ่งมากพอที่จะครองเสียงข้างมากในรัฐสภาซึ่งมี 650 ที่นั่ง และถือเป็นการคว้าที่นั่งได้มากที่สุดนับตั้งแต่นายโทนี แบลร์ อดีตผู้นำพรรคแรงงานได้รับชัยชนะแบบถล่มทลายในปี 2540
ขณะที่พรรคอนุรักษนิยม (Conservative Party) ซึ่งครองอำนาจมายาวนาน 14 ปีและนำโดยนายริชี ซูนัค จะได้ที่นั่งในรัฐสภาจำนวน 131 ที่นั่ง ซึ่งลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับจำนวน 365 ที่นั่งในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562
นายสตาร์เมอร์มีความก้าวหน้าทางการเมืองอย่างรวดเร็วหลังจากที่ก้าวเข้าสู่รัฐสภาอังกฤษในเวลาไม่ถึง 10 ปี แต่ชาวอังกฤษรู้ประวัติความเป็นมาของนายสตาร์เมอร์น้อยมาก แม้ว่าเขาได้วางสถานะตัวเองในฐานะผู้เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีได้รวบรวมประวัติของนายสตาร์เมอร์ไว้ดังนี้
- นักกฎหมายสิทธิมนุษยชนที่กลายมาเป็นนักการเมือง
นายสตาร์เมอร์เกิดในปีพ.ศ. 2505 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยบิดาของเขาทำงานเป็นช่างทำเครื่องมือ และมารดาทำงานเป็นพยาบาล นายสตาร์เมอร์มักจะแนะนำตัวเองอย่างถ่อมตนเมื่อเขาพูดคุยกับบรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวอังกฤษ โดยกล่าวว่าการที่มารดาของเขาต้องดิ้นรนต่อสู้กับความเจ็บป่วยมาตลอดชีวิตนั้น ทำให้เขารู้สึกขอบคุณระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของอังกฤษเป็นอย่างมาก
นายสตาร์เมอร์เป็นสมาชิกคนแรกในครอบครัวที่ได้เข้ารับการศึกษาในมหาวิทยาลัย โดยเขาเรียนวิชากฎหมายที่มหาวิทยาลัยลีดส์ และหลังจากที่นายสตาร์เมอร์สำเร็จการศึกษาระดับบัณฑิตวิทยาลัยที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดแล้ว เขาได้เริ่มทำงานเป็นทนายความในปี 2530 โดยเขาได้ว่าความในคดีใหญ่หลายคดี ซึ่งรวมถึงคดีฟ้องร้องบริษัทเชลล์, บริษัทแมคโดนัลด์ และคดีการปิดเหมืองของนางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษจากพรรคอนุรักษ์นิยม
นอกจากนี้ นายสตาร์เมอร์ยังเป็นที่ปรึกษาด้านสิทธิมนุษยชนในช่วงที่มีการทำข้อตกลงสันติภาพกู๊ดฟรายเดย์แห่งไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland Good Friday Agreement) ในยุคที่นายโทนี แบลร์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ในปี 2551 ซึ่งเป็นเวลา 1 ปีหลังจากแต่งงานกับนางวิกตอเรีย นายสตาร์เมอร์ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานอัยการสาธารณะ ซึ่งเป็นใบเบิกทางให้เขาก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าสำนักงานอัยการสูงสุด (Crown Prosecution Service) ของอังกฤษ
นายสตาร์เมอร์ได้รับตำแหน่งอัศวิน (Knight) ในปี 2557 เพื่อเป็นการยกย่องในบทบาทการทำงานที่โดดเด่นในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา และในปีต่อมาเข้าได้รับเลือกให้เข้ามาทำหน้าที่ในรัฐสภาอังกฤษ โดยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีฝ่ายกิจการการเข้าเมือง และรัฐมนตรีฝ่ายกิจการการนำอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ในปี 2563 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำพรรคแรงงาน และได้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในพรรค หลังจากนายเจเรมี คอร์บิน อดีตหัวหน้าพรรคแรงงานประกาศลาออก ภายหลังจากที่เขาทำให้พรรคสูญเสียที่นั่งในรัฐสภาครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ในการเลือกตั้งปี 2562 ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งปี 2567 นายสตาร์เมอร์ได้ประกาศวาระ "ทศวรรษแห่งการเริ่มต้นใหม่ของชาติ (Decade of National Renewal)" หลังจากที่พรรคแรงงานระบุว่าอังกฤษได้เผชิญกับการปรับลดการใช้จ่ายและมาตรฐานการครองชีพที่ถดถอยลงเป็นเวลานานหลายปีภายใต้การบริการของพรรคอนุรักษ์นิยม
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์การเลือกตั้งของพรรคแรงงานซึ่งมีการเผยแพร่ในเดือนที่แล้ว นายสตาร์เมอร์ได้เปิดเผยมาตรการด้านการใช้จ่ายเพื่อจัดตั้งบริษัทพลังงานมหาชนแห่งใหม่ รวมทั้งลดระยะเวลาการรอคอยสำหรับผู้ที่ใช้บริการของ NHS, การสร้างบ้านล็อตใหม่ และปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการรถไฟ