สำนักข่าวทางการปาเลสไตน์ WAFA รายงานว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง จากการที่อิสราเอลทิ้งระเบิดโจมตีโรงเรียนที่พักพิงสำหรับผู้พลัดถิ่นในพื้นที่นูซัยรัต (Nuseirat) ในฉนวนกาซาตอนกลาง เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ก.ค.)
WAFA ระบุว่า โรงเรียนอัล-เญาอินี (Al-Jaouni) ถูกทิ้งระเบิดโจมตีเป็นครั้งที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์-อิสราเอลปะทุขึ้น
ด้านสื่ออิสราเอลรายงานโดยอ้างกองทัพอิสราเอลว่า ทางกองทัพกำลังตรวจสอบรายงานเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของสำนักงานสื่อรัฐบาลกาซาซึ่งบริหารงานโดยกลุ่มฮามาส ระบุว่า โรงเรียนที่ถูกโจมตีเป็นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นราว 7,000 คน และนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งกองทัพอิสราเอลได้ทิ้งระเบิดใส่โรงเรียน ศูนย์พักพิงและศูนย์ผู้พลัดถิ่นภายในค่ายผู้ลี้ภัยนูซัยรัตไปแล้วมากกว่า 17 แห่ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานสถิติของสหประชาชาติ (UN) ที่ประเมินไว้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จำนวนผู้พลัดถิ่นภายในฉนวนกาซาเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.9 ล้านคน หรือราว 9 ใน 10 ของประชากรในฉนวนกาซา
ด้านหน่วยงานสาธารณสุขในฉนวนกาซาระบุในแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลสังหารประชาชนไป 29 ราย และบาดเจ็บอีก 100 ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักข่าวท้องถิ่นรวมอยู่ด้วย 5 ราย ส่งผลให้ยอดผู้สื่อข่าวที่เสียชีวิตนับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 158 ราย
หน่วยงานสาธารณสุขในฉนวนกาซายังระบุด้วยว่า นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์-อิสราเอลเมื่อต้นเดือนต.ค. 2566 ยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นเป็น 38,098 ราย และบาดเจ็บอีก 87,705 ราย