"คิชิดะ" ชี้ ญี่ปุ่นต้องกระชับสัมพันธ์นาโต หวั่นเอเชียตะวันออกซ้ำรอยยูเครน

ข่าวต่างประเทศ Tuesday July 9, 2024 16:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันนี้ (9 ก.ค.) ว่า ยิ่งรัสเซียกับเกาหลีเหนือกระชับความร่วมมือทางทหารกันมากขึ้น ญี่ปุ่นก็ยิ่งจำเป็นต้องกระชับความสัมพันธ์กับนาโต (NATO) เนื่องจากภัยคุกคามด้านความมั่นคงในภูมิภาคต่าง ๆ มีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น

"ความมั่นคงของยูโร-แอตแลนติกและอินโด-แปซิฟิกนั้นแยกออกจากกันไม่ได้ การรุกรานยูเครนของรัสเซียและความร่วมมือทางทหารที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับเกาหลีเหนือ เป็นเครื่องเตือนใจที่ชัดเจนถึงเรื่องนี้" นายคิชิดะกล่าว

"ญี่ปุ่นมุ่งมั่นที่จะกระชับความร่วมมือกับนาโตและพันธมิตร" นายคิชิดะกล่าวเสริม

นายคิชิดะกล่าวว่า โลกไม่ควรยอมรับความพยายามของบางประเทศที่ต้องการทำลายระเบียบระหว่างประเทศ พร้อมย้ำเตือนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครนวันนี้อาจเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกในวันข้างหน้าได้เช่นกัน นอกจากนี้ นายคิชิดะยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ที่ข้ามพรมแดน เช่น การโจมตีทางไซเบอร์ และความขัดแย้งในอวกาศ

นายคิชิดะกล่าวกับรอยเตอร์โดยไม่ได้ระบุชื่อประเทศจีนว่า "บางประเทศ" ได้ถ่ายโอนสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (สินค้าที่ใช้ได้ทั้งทางทหารและพลเรือน) ให้กับรัสเซีย ซึ่งสินค้าเหล่านี้เป็นเสมือน "เส้นเลือดใหญ่" ในการทำสงครามในยูเครน

"จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ในลักษณะที่หลากหลายและเป็นไปอย่างมีกลยุทธ์ โดยมองภาพรวมของผู้มีบทบาทในระดับนานาชาติทั้งหมดที่สนับสนุนความพยายามของรัสเซียในการเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่โดยใช้กำลัง" นายคิชิดะกล่าว

"ขอบเขตทางภูมิศาสตร์แบบ 'ยูโร-แอตแลนติก' หรือ 'อินโด-แปซิฟิก' ไม่มีความหมายอีกต่อไปเมื่อเป็นเรื่องของการปกป้องสันติภาพและความมั่นคงของโลก ญี่ปุ่นและพันธมิตรในอินโด-แปซิฟิกสามารถช่วยมีบทบาทสำคัญต่อพันธมิตรนาโตได้ในมุมมองนี้"

ทั้งนี้ ด้วยข้อจำกัดของแนวทางแบบสันตินิยมที่ดำเนินมาหลายทศวรรษ ทำให้ญี่ปุ่นลังเลที่จะให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธแก่ยูเครน

ถึงกระนั้น ญี่ปุ่นก็ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ยูเครน ช่วยเตรียมแผนฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม และบริจาคเงินให้กับกองทุนของนาโตเพื่อจัดหาอุปกรณ์ที่ไม่ใช่อาวุธ เช่น ระบบตรวจจับโดรน ให้กับยูเครน

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ความขัดแย้งแบบในยูเครนก็อาจเกิดขึ้นได้ในเอเชียตะวันออกด้วยเช่นกัน เนื่องจากจีนได้แสดงท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นต่อการอ้างสิทธิเหนือดินแดน รวมถึงอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน

"การประชุมสุดยอดครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญสำหรับญี่ปุ่น สหรัฐ และพันธมิตรนาโตชาติอื่น ๆ ในการเผชิญหน้ากับความท้าทายต่อระเบียบระหว่างประเทศ และเพื่อยืนยันค่านิยมและหลักการที่หล่อหลอมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของโลก" นายคิชิดะกล่าว

อนึ่ง เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งรวมกับญี่ปุ่นเป็นกลุ่ม Indo-Pacific Four (IP4) จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดนาโตในวันที่ 10-11 ก.ค.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ