ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พูดผิดหลายครั้งในการประชุมสุดยอดนาโต (NATO) เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) โดยเรียกปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ว่าเป็นปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ทั้งยังเรียกนางคามาลา แฮร์ริส รองปธน.ของตัวเอง ว่าเป็นนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ระหว่างการตอบคำถามแรกในการแถลงข่าว
"นี่ ผมคงไม่เลือกรองปธน.ทรัมป์มาเป็นรองปธน.หรอก ถ้าผมคิดว่าเธอไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นปธน. เอาเป็นว่าประการแรก ความจริงก็คือ ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งปธน." ไบเดนกล่าว
จากนั้น ไบเดนพยายามไม่ให้ความสำคัญกับการพูดผิดของตน โดยชี้ให้เห็นว่าผู้นำระดับโลกคนอื่น ๆ ต่างก็ยกย่องว่าการประชุมนาโตครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความผิดพลาดดังกล่าวของไบเดนถูกนำไปล้อเลียนบนโลกออนไลน์ทันที และยิ่งตอกย้ำความกังวลของประชาชนในเรื่องของอายุและความเฉียบคมทางสติปัญญาของผู้นำสหรัฐรายนี้
นอกจากนี้ การแถลงข่าวครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับแคมเปญหาเสียงที่กำลังง่อนแง่นของไบเดน และอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความเฉียบแหลมของตนก่อนที่ผู้นำโลกและบรรดาสส.จะออกจากวอชิงตัน
ฝ่ายพรรครีพับลิกันรีบฉวยโอกาสจากความผิดพลาดนี้ทันที โดยโพสต์คลิปวิดีโอลงบนโซเชียลมีเดีย แม้แต่ทรัมป์เองก็ยังเข้าร่วมวงด้วย โดยติดแท็กคลิปบนเว็บไซต์ Truth Social ของเขาว่า "เยี่ยมไปเลย โจ!"
แม้ว่าไบเดนจะตอบคำถามเกี่ยวกับนโยบายจีนและสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสได้ฉะฉาน แต่ผลงานการพูดโดยรวมของเขาในครั้งนี้ยากที่จะเปลี่ยนมุมมองของคนในแวดวงการเมืองที่มีต่อเขาไปได้
เหตุการณ์เมื่อวานนี้เกิดขึ้นหลังจากที่หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ที่ปรึกษาเก่าแก่หลายคนของไบเดนกำลังหารือกันถึงวิธีโน้มน้าวให้ปธน.ไบเดน วัย 81 ปี ถอนตัวจากการแข่งขัน และทีมหาเสียงของไบเดนกำลังทำโพลว่า รองปธน.แฮร์ริสจะสู้กับทรัมป์ได้หรือไม่ หากเธอต้องขึ้นมาเป็นแคนดิเดตคนใหม่
ด้านโฆษกของไบเดนยืนยันว่าทีมงานยังคงสนับสนุนเขาเต็มที่ แต่สัญญาณที่ว่าคนใกล้ชิดของไบเดนอาจเข้าร่วมกับกลุ่มสส. ผู้บริจาค และนักยุทธศาสตร์ที่เรียกร้องให้ไบเดนถอนตัวนั้น อาจเป็นการทำให้แคมเปญหาเสียงของไบเดนต้องถึงกาลอวสาน โดยเฉพาะหลังจากที่ไบเดนเพิ่งเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดทั้งสัปดาห์
ด้านปธน.ไบเดนย้ำหลายครั้งถึงความตั้งใจที่จะลงแข่งขันต่อไป แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้เขาหลีกทางมากขึ้นเรื่อย ๆ
"ผมตั้งใจที่จะลงแข่ง แต่ผมคิดว่าสิ่งสำคัญคือผมต้องขจัดความกลัวของพวกเขา ด้วยการให้พวกเขาได้เห็นผมปรากฏตัวในที่สาธารณะ" ไบเดนกล่าว
ไบเดนไม่สนใจข้อกังวลของพันธมิตรของเขาที่บอกว่าสภาพร่างกายและจิตใจของเขาเสื่อมถอยลงอย่างไม่อาจย้อนกลับได้เนื่องจากอายุมากขึ้น ไบเดนยังกล่าวด้วยว่า เขาเต็มใจที่จะเข้ารับการตรวจระบบประสาทเพิ่มเติมหากแพทย์แนะนำ แต่ทีมแพทย์ของเขายังไม่พบอะไรที่น่าเป็นห่วง
"ถ้าผมช้าลงและทำงานไม่ได้ นั่นเป็นสัญญาณว่าผมไม่ควรทำงานนี้ต่อ แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรบ่งชี้แบบนั้นเลย ไม่มีเลย" ไบเดนกล่าว
"ผมอยู่ตรงนี้เพื่อทำงานที่ผมเริ่มไว้ให้สำเร็จ" ไบเดนกล่าว
"แล้วทรัมป์อยู่ไหนล่ะ ขับรถกอล์ฟเล่นเหรอ หรือกำลังกรอกใบคะแนนก่อนตีลูก" ไบเดนกล่าวเสริม