เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาบุคคลสำคัญแห่งสหรัฐ (USSS) กำลังถูกตรวจสอบอย่างหนัก หลังจากที่เกิดเหตุพยายามลอบสังหารนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ส่งผลให้ USSS ซึ่งมีประวัติไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ต้องเผชิญมรสุมทางการเมือง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุลอบยิงนายทรัมป์ระหว่างการปราศรัยที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย บรรดาพันธมิตรของนายทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์ USSS เกี่ยวกับการปกป้องนายทรัมป์ ซึ่งประเด็นเรื่องความปลอดภัยกำลังเป็นที่จับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากจะมีผู้คนหลายพันคนมารวมตัวกันที่เมืองมิลวอกี ก่อนการประชุมแห่งชาติของพรรครีพับลิกันเปิดฉากในวันนี้ (15 ก.ค.)
แม้ทาง USSS จะทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับอดีตประธานาธิบดีตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว แต่การที่นายทรัมป์ได้ปรากฏตัวในการชุมนุมขนาดใหญ่นั้น ถือเป็นความท้าทายแบบที่ต่างออกไป โดยด้านนักวิจารณ์บางคนอ้างว่า USSS ได้ปฏิเสธคำขอจากทีมรักษาความปลอดภัยของนายทรัมป์ที่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติม ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ทาง USSS ระบุว่าเป็นเท็จ
นายเจมส์ โคเมอร์ สมาชิกพรรครีพับลิกันในรัฐเคนทักกี ซึ่งเป็นผู้นำคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้านการกำกับดูแลและความรับผิดชอบ กล่าวว่า "มีคำถามมากมายและชาวอเมริกันต้องการคำตอบ"
นอกจากนี้ บรรดาหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐได้ยกให้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความพยายามลอบสังหาร และสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) กำลังนำการสืบสวนอยู่
ทั้งนี้ นายทรัมป์ได้รับบาดเจ็บที่ส่วนบนของหูขวา แต่ยังสบายดี โดยนายทรัมป์จะมุ่งหน้าไปยังเมืองมิลวอกีเพื่อเข้าร่วมการประชุมพรรคฯ ซึ่งเป็นโอกาสที่เขาจะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งในนามพรรครีพับลิกันสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย.
ก่อนหน้านี้ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า ก่อนเกิดเหตุเขาและบุคคลอื่นเห็นชายคนหนึ่งคลานขึ้นไปบนหลังคาพร้อมปืนไรเฟิล และได้พยายามเตือนเจ้าหน้าที่แล้ว