ผู้ต้องสงสัยว่าพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คือชายหนุ่มวัย 20 ปีที่ทำงานเป็นผู้ช่วยในบ้านพักคนชรา เหตุลอบสังหารดังกล่าวยังคงเป็นปริศนาว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุคืออะไร หรือแม้กระทั่งว่าเขาเข้าใกล้อดีตประธานาธิบดีมากขนาดนี้ได้อย่างไร
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (15 ก.ค.) ว่า จากข้อมูลเบื้องต้น ทราบเพียงว่านายโทมัส แมทธิว ครูกส์ ผู้ต้องสงสัยซึ่งถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมไปแล้วนั้น ทำงานระดับเริ่มต้นใกล้บ้านเกิดในรัฐเพนซิลเวเนีย หลังจบการศึกษาระดับมัธยมปลายในปี 2565 โดยเพื่อนร่วมชั้นจำได้ว่าเขาเป็นคนเงียบ ๆ แต่เรียนเก่ง ขณะที่ครูแนะแนวบอกว่าเขาเป็นเด็ก "มีสัมมาคารวะ" และไม่เคยเห็นว่าเขาสนใจเรื่องการเมือง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14 ก.ค.) FBI แถลงว่า จากการตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียของครูกส์ ไม่พบข้อความที่ส่อถึงการคุกคามใด ๆ และไม่พบประวัติอาการป่วยทางจิต เบื้องต้นเชื่อว่าเขาน่าจะลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง แต่ยังไม่ทราบแรงจูงใจที่แน่ชัด
ย้อนกลับไปในช่วงบ่ายวันเสาร์ (13 ก.ค.) ครูกส์ได้แอบขึ้นไปบนหลังคาที่อยู่ห่างจากเวทีปราศรัยของทรัมป์ในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ประมาณ 140 เมตร ก่อนจะยิงปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติที่พ่อของเขาซื้อมา ส่งผลให้ชายวัย 50 ปีเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย ขณะที่กระสุนพุ่งเฉี่ยวหูอดีตปธน.ทรัมป์จนได้รับบาดเจ็บ
ครูกส์อาศัยอยู่ในเบเธล พาร์ก ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณหนึ่งชั่วโมง เขาลงทะเบียนเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน โดยข้อมูลสาธารณะแสดงให้เห็นว่า พ่อของเขาเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน ส่วนแม่เป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต และเมื่อครูกส์อายุ 17 ปี เขาเคยบริจาคเงิน 15 ดอลลาร์ให้กับกิจกรรมของพรรคเดโมแครต
ผู้บริหารบ้านพักคนชรารายหนึ่งออกแถลงการณ์ว่า ครูกส์ทำงานเป็นผู้ช่วยด้านโภชนาการในบ้านพักคนชราในตอนที่เกิดเหตุ
"เราตกใจและเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ทราบว่าเขาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ โทมัส แมทธิว ครูกส์ ทำงานได้โดยไม่มีปัญหา และการตรวจสอบประวัติของเขาก็ขาวสะอาด" มาร์ซี กริมม์ ผู้บริหารศูนย์พยาบาลและฟื้นฟูสมรรถภาพเบเธล พาร์ก กล่าว
สองปีก่อน ครูกส์จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมในท้องถิ่น เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม บอกว่าเขาไม่เคยสนใจเรื่องการเมืองเลย ครูกส์ชอบประกอบคอมพิวเตอร์และเล่นเกมมากกว่า
"เขาหัวไวมากจนน่าตกใจ เขาฉลาดมาก เรียนเก่งมาก และเราไม่เคยคุยเรื่องอะไรแปลก ๆ กันเลย" เพื่อนร่วมชั้นของครูกส์กล่าว
นายจิม แนปป์ ซึ่งเกษียณจากงานครูแนะแนวที่โรงเรียนมัธยมเบเธล พาร์ก ในปี 2565 กล่าวว่า ครูกส์เป็นคนเงียบ ๆ มีสัมมาคารวะ และชอบเก็บตัว แต่ก็มีเพื่อนอยู่บ้าง
นายแนปป์กล่าวว่า เขาไม่ค่อยได้เจอครูกส์บ่อยนัก เพราะ "เขาไม่ใช่เด็กประเภทที่ต้องการความช่วยเหลือ" โดยครูกส์พอใจที่จะกินอาหารกลางวันคนเดียวในโรงอาหารเป็นบางครั้ง
"ไม่มีใครล้อเลียนหรือรังแกเขา" นายแนปป์กล่าว
นายแนปป์บอกว่า เขาไม่เคยเห็นครูกส์สนใจเรื่องการเมือง แม้แต่ตอนที่เด็กคนอื่น ๆ ใส่เสื้อผ้าที่มีสัญลักษณ์ทรัมป์หรือไบเดน เขายังบอกอีกว่าเขาจำไม่ได้ว่าครูกส์เคยถูกลงโทษที่โรงเรียนหรือไม่
"ใครๆ ก็สติแตกได้ ใคร ๆ ก็มีปัญหาได้ ต้องมีอะไรบางอย่างที่กระตุ้นให้ชายหนุ่มคนนี้ขับรถไปที่บัตเลอร์เมื่อวานนี้ แล้วก่อเหตุแบบนั้น" นายแนปป์กล่าว
อนึ่ง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้บ้านของครูกส์ต่างตกใจและหวั่นวิตกที่มีคนจากเมืองเงียบสงบซึ่งมีประชากร 33,000 คนแห่งนี้ ก่อเหตุลอบสังหาร
"เบเธล พาร์ก ค่อนข้างเป็นย่านชนชั้นแรงงาน และเมื่อคิดว่ามีคนอยู่ใกล้ ๆ ทำอะไรแบบนี้มันก็ออกจะบ้าไปหน่อย" เวส มอร์แกน วัย 42 ปี พนักงานบริษัทจัดการการลงทุน ซึ่งมักจะปั่นจักรยานกับลูก ๆ บนถนนสายเดียวกับบ้านของครูกส์ กล่าว
คู่สามีภรรยาคู่หนึ่งยืนอยู่ที่เฉลียงหน้าประตูเข้าบ้าน พวกเขายังคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"ไม่เคยมีปัญหาเรื่องปืนที่นี่มาก่อน ไม่เคยมีการเรียกตำรวจด้วย" นางแมรี่ พริเซแลค วัย 67 ปี กล่าวพร้อมกับสามีของเธอ "อดสงสัยไม่ได้ว่าเขาขาดอะไรในชีวิต ทำไมถึงต้องทำอะไรสุดโต่งแบบนี้"
ด้านเจ้าหน้าที่ FBI กล่าวว่า ปืนของครูกส์เป็นปืนไรเฟิล AR-556 ที่ซื้อมาอย่างถูกกฎหมาย และเชื่อว่าพ่อของเขาเป็นคนซื้อ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบ "อุปกรณ์ต้องสงสัย" ในรถของครูกส์ ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดได้ตรวจสอบและเก็บกู้ไว้ได้แล้ว
นายบรูซ เพียนเดิล เจ้าของร้าน Allegheny Arms and Gunworks ในเบเธล พาร์ก กล่าวว่า ปืนเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมในย่านนี้ "คุณต้องเข้าใจว่าในแถบตะวันตกของเพนซิลเวเนีย เรามีประเพณีการล่าสัตว์ ตกปลา และกิจกรรมกลางแจ้งมายาวนาน ในรัศมี 16 กิโลเมตรจากที่นี่ มีชมรมยิงปืนอยู่เต็มไปหมด"
นายเพียนเดิลกล่าวว่า จากบันทึกของเขายืนยันว่าไม่ได้ขายอาวุธปืนให้กับมือปืนรายนี้ แต่ปฏิเสธที่จะตอบว่าเขาเคยขายอาวุธปืนให้กับครอบครัวของครูกส์หรือไม่