สหประชาชาติ (UN) ได้ประกาศเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ว่า จะเริ่มนำรถหุ้มเกราะและอุปกรณ์ป้องกันสำหรับปฏิบัติการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้ามาในฉนวนกาซามากขึ้น หลังจากได้รับการอนุมัติจากทางการอิสราเอลแล้ว
นายสกอตต์ แอนเดอร์สัน รองผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมสำหรับดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง (Occupied Palestinian Territory) เปิดเผยว่า การอนุมัติดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อจดหมายของ UN ที่ส่งถึงอิสราเอลเมื่อเดือนที่แล้ว เกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคงในฉนวนกาซา ในขณะที่สงครามอิสราเอล-ฮามาสเข้าสู่เดือนที่ 10 โดยที่ทั้งกฎหมายและระเบียบได้พังทลายลง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า UN ได้เผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องในการให้ความช่วยเหลือแก่ฉนวนกาซา เนื่องจากอิสราเอลดำเนินการตรวจสอบรถบรรทุกทุกคันที่ส่งความช่วยเหลือ ก่อนที่จะอนุมัติให้แล่นผ่านได้ ซึ่งส่งผลให้เกิดความล่าช้า อีกทั้งยังต้องเผชิญความยากลำบากในการแจกจ่ายความช่วยเหลือ เนื่องจาก "ความไร้กฎหมายโดยสิ้นเชิง" ในฉนวนกาซา ซึ่งมีประชากร 2.3 ล้านคน
นอกจากนี้ รายงานล่าสุดจากหน่วยงานติดตามความหิวโหยทั่วโลกเตือนถึงความเสี่ยงที่สำคัญของความอดอยากในฉนวนกาซาอีกด้วย
นายแอนเดอร์สันกล่าวว่า UN มีกำหนดที่จะเริ่มนำรถหุ้มเกราะและอุปกรณ์ป้องกันเข้าไปในฉนวนกาซาเพิ่มเติมในวันนี้ (16 ก.ค.)
ทั้งนี้ UN ระบุว่า ทางหน่วยงานต้องการระบบสื่อสารที่ไม่ได้อาศัยเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือเพียงอย่างเดียวเนื่องจากพึ่งพาไม่ได้ยามจำเป็น แต่ทางการอิสราเอลมีข้อกังวลด้านความปลอดภัยหากกลุ่มฮามาสเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมได้