สหภาพยุโรป (EU) ประกาศคว่ำบาตรชาวอิสราเอล 5 ราย และองค์กรอีก 3 แห่ง ซึ่งถูกระบุว่ามีส่วนรับผิดชอบต่อ "การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและเป็นระบบ" ต่อชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออก
หนึ่งในองค์กรที่ถูกขึ้นบัญชีคือ ซาฟ 9 (Tzav 9) ซึ่งขัดขวางไม่ให้รถบรรทุกช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมนำอาหาร น้ำ และเชื้อเพลิงเข้าไปยังฉนวนกาซาอยู่หลายครั้ง
นอกจากนี้ ในบัญชียังมีรายชื่อของเบน-ไซออน กอปสไตน์ ผู้ก่อตั้งและผู้นำองค์กรเลฮาวา (Lehava) และอิซาคาร์ แมนเน ผู้ก่อตั้งถิ่นฐานชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บุคลทั้งสอง รวมถึงซาฟ 9 ก็ถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐอเมริกาเช่นกัน
นายเบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอิสราเอล เรียกการคว่ำบาตรในครั้งนี้ว่าเป็น "การกระทำที่ไม่เหมาะสมและไม่อาจยอมรับได้ในฐานะมิตร" รวมทั้งเป็นการแทรงแซงที่ไม่เป็นประชาธิปไตยต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยของอิสราเอล ซึ่งกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมของพลเมืองอิสราเอล
นายสโมทริชกล่าวว่า การคว่ำบาตรชาวอิสราเอลและองค์กรในครั้งนี้ถือเป็นการล้ำเส้น และเรียกร้องให้ยกเลิกการคว่ำบาตรดังกล่าว
ทั้งนี้ การคว่ำบาตรของ EU ภายใต้นโยบายคว่ำบาตรกลุ่มผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ประกอบด้วยการอายัดทรัพย์สินและการห้ามการเดินทางมายังประเทศสมาชิก EU