สำนักข่าว NBC News รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า หน่วยอารักขาบุคคลสำคัญแห่งสหรัฐ (USSS) ได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่สหรัฐได้รับข้อมูลข่าวกรองว่า อิหร่านมีแผนลอบสังหารทรัมป์
เจ้าหน้าที่ได้รับข่าวกรองดังกล่าวก่อนที่นายทรัมป์จะถูกลอบยิงโดยนายโทมัส แมทธิว ครูกส์ มือปืนวัย 20 ปี ระหว่างการปราศรัยในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 ก.ค.)
สำนักข่าว CNN เป็นผู้รายงานข่าวเกี่ยวกับแผนของอิหร่านเป็นรายแรก และยิ่งทำให้เกิดคำถามมากขึ้นว่า เหตุใดหน่วยอารักขาจึงหละหลวม ปล่อยให้นายครูกส์ลอบยิงทรัมป์จากดาดฟ้าของอาคารบริเวณใกล้เคียงไปได้
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ยังไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างนายครูกส์กับแผนลอบสังหารของอิหร่านแต่อย่างใด
นางเอเดรียน วัตสัน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ระบุในถ้อยแถลงที่ส่งถึง NBC News ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สืบสวนเหตุลอบยิงครั้งนี้ "ไม่พบความเชื่อมโยงใด ๆ ระหว่างมือปืนกับผู้สมรู้ร่วมคิด ไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศ"
"อย่างที่เราพูดไปหลายครั้ง เราได้เฝ้าติดตามภัยคุกคามจากอิหร่านต่ออดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์มาหลายปีแล้ว ย้อนหลังไปถึงฝ่ายบริหารชุดก่อน" นางวัตสันระบุ
"ภัยคุกคามเหล่านี้เกิดขึ้นจากความปรารถนาของอิหร่านที่จะแก้แค้นการสังหารนายพลกัสซิม โซเลมานี เราถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องความมั่นคงระดับชาติที่มีความสำคัญสูงสุด" นางวัตสันกล่าวเสริม
ทั้งนี้ โซเลมานี ซึ่งถือเป็นนายพลที่ทรงอำนาจที่สุดของอิหร่านในขณะนั้น ถูกสังหารเมื่อเดือนม.ค. 2563 จากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ ในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ซึ่งเป็นสมัยที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ