นายริชาร์ด เกรเนล อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยอรมนีเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (18 ก.ค.) ว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจะดำเนินการเจรจาต่อรองทางการทูตไม่ว่ากับประเทศไหน ๆ ก็ตาม หากเขาได้กลับมาดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาวอีกครั้ง โดยระบุถึงการดำเนินความสัมพันธ์กับนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมัยแรก
นายเกรเนลกล่าวระหว่างการแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่มสนับสนุนแนวคิดอนุรักษ์นิยม (CPAC) ที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซินของสหรัฐ ซึ่งเป็นเมืองเดียวกับที่มีการจัดประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน (RNC)
นายเกรเนลกล่าวว่า "ผมคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน เขาก็พร้อมจะเข้าไปและสู้เพื่ออเมริกา ดังนั้นจึงไม่สำคัญว่าใครจะเป็นผู้นำประเทศ เรากำลังพยายามจะสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ยอดเยี่ยม"
สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า นายเกรเนลระบุว่า การทูตของอดีตปธน.ทรัมป์กับนายคิมเป็นตัวอย่างของการให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาติด้านการเจรจาทางการทูต โดยนายทรัมป์จัดการประชุมระดับสูงกับนายคิม 3 ครั้งซึ่งรวมถึงการประชุมสุดยอดครั้งแรกที่สิงคโปร์ในปี 2564
ถ้อยแถลงของนายเกรเนลยิ่งทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า หากทรัมป์ได้รับเลือกอีกครั้ง ก็อาจกลับมาจัดการประชุมสุดยอดร่วมกับนายคิมอีกครั้ง แม้มีข้อสงสัยว่า นายคิมจะสนใจหรือไม่ที่จะเจรจากับสหรัฐในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ทางการทหารกับรัสเซียกำลังแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น