ทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ค.) ว่า มีแผนที่จะเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในการดำเนินงานทุกส่วนของรัฐบาลกลางภายในปี 2578 โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการจัดการกับวิกฤตมลพิษจากพลาสติกที่เพิ่มขึ้น
รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุในเอกสารความยาว 83 หน้าว่า รัฐบาลกลางมุ่งมั่นที่จะดำเนินการอย่างจริงจังตลอดวงจรชีวิตของพลาสติกเพื่อขจัดมลพิษจากพลาสติก และกำลังร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อทำเช่นเดียวกัน
ภายใต้เป้าหมายดังกล่าว รัฐบาลกลางจะเลิกจัดซื้อพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในส่วนของบริการอาหาร อีเวนต์ และบรรจุภัณฑ์ ภายในปี 2570 และจะเลิกจัดซื้อพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งสำหรับการดำเนินงานทุกส่วนของรัฐบาลกลางภายในปี 2578
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทำเนียบขาวคาดการณ์ว่าการดำเนินการนี้จะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่ออุปทานผลิตภัณฑ์พลาสติก
ข้อมูลจากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ระบุว่า ทุกปีมีพลาสติกถูกผลิตออกมาอย่างน้อย 460 ล้านเมตริกตัน ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำหนักของวาฬสีน้ำเงินมากกว่า 300,000 ตัว
ทั้งนี้ เมื่อขยะพลาสติกขนาดใหญ่ย่อยสลายหรือแตกหัก ก็จะก่อให้เกิดไมโครพลาสติก หรืออนุภาคพลาสติกที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถพบได้ทุกที่ รวมถึงในร่างกายของมนุษย์ด้วย