นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวในวันนี้ (22 ก.ค.) ว่า อิสราเอลจะยังคงเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของสหรัฐในตะวันออกกลาง ไม่ว่าใครจะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.นี้ก็ตาม
เนทันยาฮูระบุว่า เขาจะไปขอบคุณประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ สำหรับสิ่งที่เขาได้ทำเพื่ออิสราเอลตลอดช่วงชีวิตการทำงานที่ผ่านมา และจะหารือกับไบเดนในประเด็นต่าง ๆ เช่น การช่วยให้ตัวประกันชาวอิสราเอลในฉนวนกาซาได้รับการปล่อยตัว การเอาชนะกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ และการเผชิญหน้ากับอิหร่านและกองกำลังตัวแทนของอิหร่านในภูมิภาค
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีกำหนดการเบื้องต้นว่าเนทันยาฮูจะได้พบกับไบเดนในวันอังคารนี้ (23 ก.ค.) หากไบเดนฟื้นตัวจากโควิด-19 แล้ว และเนทันยาฮูมีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสในวันพุธนี้ (24 ก.ค.)
อนึ่ง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เนทันยาฮูเยือนสหรัฐ ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรสำคัญที่สุดของอิสราเอล นับตั้งแต่ที่เนทันยาฮูกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 6 ในปลายปี 2565 การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ไบเดนประกาศถอนตัวจากการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567
"ผมจะบอกกับเพื่อน ๆ ของผมทั้งสองฝ่ายในสภาว่า ไม่ว่าประชาชนชาวอเมริกันจะเลือกใครเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป อิสราเอลจะยังคงเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งและขาดไม่ได้ของอเมริกาในตะวันออกกลาง" เนทันยาฮูกล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นเครื่องบินออกเดินทางไปยังวอชิงตัน
"ในช่วงเวลาแห่งสงครามและความไม่แน่นอนเช่นนี้ เป็นเรื่องสำคัญที่ศัตรูของอิสราเอลจะต้องรู้ว่าอเมริกาและอิสราเอลยืนหยัดเคียงข้างกันทั้งในวันนี้ พรุ่งนี้ และตลอดไป" เนทันยาฮูกล่าวเสริม พร้อมระบุว่าเขาต้องการ "ยึดโยงการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับอิสราเอล"
ทั้งนี้ สุนทรพจน์ของเนทันยาฮูต่อสภาคองเกรสคาดว่าจะมุ่งเน้นไปที่การประสานงานระหว่างอิสราเอลกับสหรัฐในการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ผันผวนในตะวันออกกลาง ซึ่งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นว่าความขัดแย้งในฉนวนกาซาจะลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งในระดับภูมิภาค